เมื่อวันที่ 17 ก.พ. นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี มีข่าวพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์เอ A (H7N4) ในต่างประเทศ ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่พบรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 49 จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ กรมควบคุมโรค ในฐานะที่เป็นจุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ ให้ประสานงาน
          และติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนกของประเทศ ไทยอย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้องค์การอนามัยโลกยังไม่มีคำแนะนำเฉพาะของสายพันธุ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
          ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แม้จะไม่ พบรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกมากว่า 10 ปี แต่ยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ผ่านผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด หรือจากนกอพยพ และการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก ทั้งบริเวณแนวชายแดนจากประเทศเพื่อนบ้านและภายในประเทศ เช่น ไก่ชน เป็ดไล่ทุ่ง ทั้งนี้การที่คนติดโรคไข้หวัดนกได้ เพราะมีการสัมผัสสารคัดหลั่งของสัตว์ปีกที่ป่วย เช่น อุจจาระ น้ำมูก น้ำลาย ทั้งทางตรง ทางอ้อม ทั้งนี้ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย มีน้ำมูก ไอ และเจ็บคอร่วมด้วย แต่สามารถป้องกันได้โดยการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ ระมัดระวังการสัมผัสสัตว์ปีก รวมทั้งนกธรรมชาติ กินเมนูสัตว์ปีกที่ปรุงสุกหากมีอาการคล้ายไข้หวัด ใหญ่ ภายในช่วง 14 วัน หลังกลับจากพื้นที่พบสัตว์ปีกป่วยตาย ควรสวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์.