สหรัฐ ผู้ส่งออกเนื้อวัวรายใหญ่ของโลกพบเชื้อวัวบ้า (บีเอสอี) ในวัวที่รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ยืนกรานไม่เป็นอันตรายต่อห่วงโซ่อาหารหรือสุขภาพของคน
          กระทรวงเกษตรของสหรัฐ (ยูเอสดีเอ) เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า พบเชื้อวัวบ้าทางตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ได้ให้ความมั่นใจกับผู้บริโภคและผู้นำเข้าทั่วโลกอย่างรวดเร็วว่า เนื้อจากวัวตัวดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อาหารหรือสุขภาพของคน อีกทั้งไม่สามารถถ่ายทอดผ่านทางน้ำนมได้
          นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังคงมั่นใจในความสมบูรณ์ของปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมวัวในระหว่างการตรวจสอบการระบาดของโรค ขณะที่ ตัวอย่างของสัตว์ที่ติดเชื้อถูกส่งไปยังห้องแล็บในเมืองเอเมส รัฐไอโอวา ซึ่งมีการตรวจเจอรูปแบบของเชื้อที่ไม่ค่อยได้พบบ่อยนัก พร้อมกับมีการแบ่งปันข้อมูลไปยังห้องแล็บในอังกฤษและแคนาดาแล้ว ด้าน สมาคมผู้ส่งออกเนื้อของสหรัฐเฝ้าระวังและยืนยันถึงความปลอดภัย เพื่อป้องกันการตื่นตระหนก
          สหรัฐเคยพบวัวบ้ารายแรกเมื่อปลายปี 2546 ทำให้ยอดส่งออกเนื้อวัวร่วงลงจาก 1.27 ล้านตันเหลือไม่ถึง 322,000 ตันในปี 2547 หรือลดไปถึงร้อยละ 75 และเพิ่งกลับมาเกิน 1 ล้านตันเมื่อปี 2553 นอกจากนั้น ยังเคยมีรายงานการพบเชื้อวัวบ้าในแคนาดา อิสราเอล ยุโรปและญี่ปุ่น จนสร้างความเสียหายให้แก่อุตสาหกรรมวัวทั่วโลกหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
          ทุกปีกระทรวงเกษตรของสหรัฐ จะดำเนินการตรวจสอบปศุสัตว์ราว 40,000 ตัว อย่างไรก็ตาม ข่าวการพบเชื้อวัวบ้า ทำให้ราคาปศุสัตว์ล่วงหน้าที่ตลาดชิคาโกร่วงลงทันที
          ส่วนเมื่อวันพุธ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ 2 แห่งของเกาหลีใต้ระงับการขายเนื้อวัวทั้งหมดจากสหรัฐ หลังพบเชื้อวัวบ้าในอเมริกาอีก โดยโฆษก ลอตเต้ มาร์ตระบุว่า ทางบริษัทผู้ค้าปลีกได้ระงับการขายเนื้อวัวถึง 95 สาขา เช่นเดียวกับโฮม พลัส ก็ระงับการขายเนื้อวัวของสหรัฐ ขณะที่ กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้แถลงว่า จะดำเนินการอย่างเหมาะสม หลังการตรวจสอบข้อมูล หากจำเป็น เราอาจกักกันและตรวจสอบอย่างเข้มงวดหรือห้ามนำเข้าไปเลย.