|
|
|
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 08/02/2560 ] |
|
|
|
|
หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ระบาดหนัก สั่งปิดโรงเรียนด่วน สธ.ส่งทีมเฝ้าระวังคุม'แพร่เชื้อ' อ่วมเดือนเดียวป่วยร่วม5พันคน |
|
|
|
|
สาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถมปิดโรงเรียนด่วน! หลังเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอในนักเรียนจำนวนมาก โดยลามจากเด็ก ป.1ถึง ป.6 ทั้งนี้เพื่อให้เด็กหยุดรักษาตัว และทางโรงเรียนได้พ่นยาฆ่าเชื้อ-ทำความสะอาดห้อง เรียนด้วย รมว.สาธารณสุข ส่งทีมเฝ้าระวังสอบ สวนเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่เพื่อคุมการระบาด เผยแค่เดือนเดียวป่วยเกือบ 5,000 คน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอายุแรกเกิด-14 ปี คาด ก.พ.-มี.ค. ป่วยเพิ่มเดือนละ 1.3 หมื่นคน แนะทำร่างกายแข็งแรง ไอจามปิดปากปิดจมูก ล้างมือบ่อย ๆ หากป่วยควรหยุดอยู่บ้านเพื่อตัดวงจรแพร่ระบาด
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. รศ.สุพร ชัยเดชสุริยะ ผอ.โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม เปิดเผยว่า โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม ได้ประกาศปิดการเรียนการสอนในวันที่ 6- 7 ก.พ.นี้ เนื่องจากมีเด็กป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอ จำนวน 90-100 คน ดังนั้นทางโรงเรียนกลัวว่าไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอ จะระบาดมากขึ้นจึงต้องให้เด็กหยุดเรียนเพื่อรักษาตัว ขณะเดียวกันทางโรงเรียนได้พ่นยาฆ่าเชื้อ และทำความสะอาดห้องเรียนกว่า 40 ห้อง รวมถึงห้องเรียนพิเศษต่าง ๆ ด้วย อย่างไรก็ตามวันที่ 7 ก.พ. นี้ ยังต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งว่าจำเป็นจะต้องสั่งปิดเรียนเพิ่มหรือไม่ แต่คาดว่าไม่น่าจะปิดต่อ เนื่องจากดูช่วงเวลาของการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอ 5-7 วันก็น่าจะหมดไปแล้ว แต่ถ้าจำเป็นต้องปิดก็ต้องปิด เพราะไม่อยากให้มีการแพร่ระบาด และเมื่อเปิดเรียนโรงเรียนมีมาตรการที่จะปิดเครื่องปรับอากาศในห้องเรียนด้วยเพื่อป้องกันเชื้อ
รศ.สุพร กล่าวต่อไปว่า ในโรงเรียนมีเด็กเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอ ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงเรียนก็พยายามคัดกรองเด็ก และมีการวัดไข้เด็กก่อนที่จะเข้าโรงเรียน ช่วงแรกวัดไข้เด็กเวลา 06.00- 07.00 น. หากเด็กมีไข้จะให้กลับบ้านทันที และมีเด็กบางคนกินยาทำให้ไม่สามารถวัดไข้ได้ ต่อมาจำนวนเด็กป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอเพิ่มขึ้น ทางโรงเรียนจึงเพิ่มเวลาการ วัดไข้อีกในเวลา 11.00 น. พบว่าเด็กติดเชื้อจริง ๆ และยังมีการลามจากเด็ก ป.1 ถึง ป.6
ที่สำคัญในการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ประจำปี 2560 เมื่อช่วงวันที่ 4-5 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม เป็นสนามสอบด้วย พบว่ามีเด็ก 13 คนจากผู้มีสิทธิสอบกว่า 200 คนไม่มาสอบ เพราะเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอ ทางโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ ฝ่ายประถม จึงตัดสินใจสั่งปิดโรงเรียน เพื่อให้เด็กได้รักษาตัวเองอย่างเต็มที่และไม่นำเชื้อมาติดเพื่อน ๆ
ทางด้าน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงได้มอบหมายให้สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค ส่งทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักอนามัย กทม.สอบสวนและควบคุมโรคในโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม ที่มีนักเรียนป่วยไข้หวัดใหญ่จำนวนมาก พร้อมให้คำแนะนำมาตรการป้องกันโรคให้แก่คณะครูและผู้ปกครองแล้ว
ทั้งนี้ สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ 1-31 ม.ค. 2560 มีผู้ป่วย 4,875 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต พบผู้ป่วยมากในกลุ่มเด็กอายุแรกเกิด-14 ปี โดยคาดว่าในปี 2560 จะมีผู้ป่วยมากกว่า 3 แสนราย โดยเดือน ก.พ.-มี.ค. คาดว่าจะมีผู้ป่วยประมาณเดือนละ 13,000 ราย สำหรับใน กทม. สัปดาห์ที่ผ่านมามีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ในสถานศึกษาหลายแห่ง โดยเฉพาะระดับประถมศึกษา ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ กทม. ดำเนินการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้ ขอแนะนำประชาชนใช้มาตรการ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์เอ โดย 1. ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ใช้ผ้าหรือกระดาษทิซชูปิดปากและจมูก หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดควรใช้หน้ากากอนามัย 2. ล้าง คือ ล้างมือบ่อย ๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได ราวบนรถโดยสาร 3. เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย 4. หยุด คือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน นับจากวันเริ่มป่วยหรือหลังจากหายเป็นปกติแล้วอย่างน้อย 1 วัน ขณะที่ พญ.วรยา เหลืองอ่อน ผอ.สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงกำลังระบาด และมีการพบการเจ็บป่วยในลักษณะเป็นกลุ่มก้อนกระจายในเมือง ซึ่งจากที่สำนักระบาดฯ ได้ลงพื้นที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์เก็บรายละเอียดการป่วย สืบสวนโรค การที่โรงเรียนประกาศหยุดเรียนเพื่อทำความสะอาดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะการเจ็บป่วยในเด็ก มักมีการแพร่กระจายของโรคได้อย่างรวดเร็วมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กมีการใกล้ชิดสัมผัส หยอกล้อเล่นกัน. |
| | |
|
| |