เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงสุขภาพของหญิงไทย เนื่องจากแต่ละปีมีผู้หญิงเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก 5,216 ราย มากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านมโดยส่วนใหญ่พบในกลุ่มอายุ 15-59 ปี และพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่เพิ่มปีละประมาณ 10,000 ราย ซึ่งสาเหตุของมะเร็งชนิดนี้ ร้อยละ 80 เกิดมาจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่าเอชพีวี ซึ่งติดจากการมีเพศสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีแนวคิดจะนำวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี มาฉีดป้องกันในเด็กหญิงไทยอายุ 12 ปี ที่กำลังเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และยังไม่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งทั่วประเทศมีปีละประมาณ 400,000 คน ฉีดคนละ 3 เข็มจะป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกได้ตลอดชีวิตซึ่งจะลดการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่และลดการเสียชีวิตในระยะยาวอย่างได้ผล

นพ.สุรวิทย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้กรมอนามัยจัดทำโครงการดังกล่าวเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณ 600 ล้านบาท และจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดเป็นนโยบายของชาติ ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมระบบการประกันสุขภาพและเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าเพราะหากป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก 1 รายต้องใช้เวลารักษาติดต่อกัน 4-5 ปีค่ารักษาประมาณ 1 ล้านบาทต่อรายหากมีผู้ป่วย 10,000 รายต้องใช้เงินรักษา 10,000 ล้านบาท และบางรายอาจไม่ได้ผลแต่หากลงทุนโดยฉีดวัคซีนป้องกันจะถูกกว่ากันถึง 17 เท่า ทั้งนี้แนวคิดการฉีดวัคซีนนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก 6 องค์กรวิชาชีพทางการแพทย์ คือ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย และสมาคมอนามัยเจริญพันธุ์ (ไทย).
 

--จบ--