HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 27/12/2556 ]
มากินอาหารไทยกันเถอะ
 ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับอาหารที่ควรรับประทาน เป็นอาหารไทยที่หลายคนมองข้ามมาฝากท่านผู้อ่านดังนี้
          1. อาหารไทยมีใยอาหารสูง เป็นข้อดีประการแรกของสำรับแบบไทย ๆ ที่อุดมไปด้วยใยอาหารไม่ว่าจะของหวานหรือคาว  ในน้ำพริกปลาทูมีใยอาหารอยู่ในผักทั้งจาน ลำพังข้าวซ้อมมือก็ได้เส้นใยอาหารจากเยื่อหุ้มเมล็ดแล้ว
          2. สำรับไทยได้สารอาหารครบ การกินอาหารไทยแค่จานต่อมื้อ  กินเมี่ยงคำ 1 คำก็ได้ครบในคำเดียว หรือจะกินอาหารง่าย ๆอย่างข้าวไข่เจียวราดซอสมะเขือเทศก็ยังได้ครบ อาหารไทยจึงจัดเป็นอาหารสุขภาพได้ถึงในระดับโลก
          3.อาหารไทยมีน้ำมันเพื่อสุขภาพ  ปลาทูก็มีน้ำมันโอเมก้า 3 น้ำมันที่ใช้ทอดอาหารไทยในปัจจุบันเราใช้น้ำมันพืช  ซึ่งบ้านเรามีพืชน้ำมันที่น่าสนใจ ได้แก่ น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันไนเจอร์ น้ำมันงาม่อน  ซึ่งคุณสมบัติของน้ำมันเหล่านี้มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในปริมาณที่ไม่แพ้น้ำมันมะกอกราคาแพง
          4. ข้าวไทยและธัญพืชมีธาตุม่วงต้านร่วงโรย โดยเฉพาะข้าวสีนิล ข้าวซ้อมมือ ข้าวแดง ข้าวเหนียวดำ ข้าวมันปู ข้าวสังข์หยด ข้าวลืมผัว  ข้าวเหล่านี้เป็นข้าวสุขภาพที่ให้ "แอนโทไซยานินส์" เป็นวิตามินกลุ่มต้านชราที่ต้านทั้งโรคหัวใจ ไขมันสูง ความดันสูงและมะเร็ง  นอกจากนั้นอาหารไทยยังอุดมด้วยธัญพืชอย่างงาดำ เมล็ดทานตะวัน ถั่วเขียว ถั่วแดงหลวง ถั่วดำ เม็ดแมงลักซึ่งให้น้ำมันที่มีประโยชน์
          5. น้ำมันไทยมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง คนไทยเราใช้น้ำมันธรรมชาติเพื่อปรุงอาหารมาแต่ไหนแต่ไร ยุคก่อนนั้นใช้ "น้ำมันหมู" ซึ่งทอดไข่ได้หอมอร่อยแถมได้ผลพลอยได้เป็นกากหมูให้เคี้ยวเล่น น้ำมันหมูมีวิตามินดีอยู่มากและมีกรดไขมันโอเมก้า 3 เหมือนกันแต่น้อยจึงควรบริโภคอย่างจำกัด  ส่วนยุคนี้เรามีทั้งน้ำมันปาล์ม น้ำมันมะกอก รำข้าว เมล็ดทานตะวัน ถั่วเหลือง งา เมล็ดดอกคำฝอยให้เลือกใช้จึงทำให้ได้วิตามินอีที่หลากหลายทั้ง "โทโคฟีรอล" และ "โทโคไทรอีนอล" ที่ช่วยลดไขมันได้ ไปจนถึงน้ำมันที่ช่วยบำรุงผิวอย่าง "น้ำมันมะรุม"
          6. แกงไทยมีกะทิเป็นส่วนผสม  ทั้งแกงเขียวหวาน มัสมั่น เทโพ กะทิสายบัว พะแนง หมี่กะทิ เต้าเจี้ยวหลน ห่อหมก ล้วนแต่มีของดีคือกะทิอยู่ซึ่งกะทิให้พลังงานสูง แต่ก็ให้ประโยชน์สำคัญคือทำให้วิตามินจากสมุนไพรในอาหารไทยดูดซึมได้ดีขึ้น เช่น วิตามินเอจากพริกที่ละลายในกะทิได้ดี  หรือวิตามินเคจากปลาร้าที่เอามาทำหลนกะทิ  รวมถึงวิตามินอีที่มีอยู่ในตัวกะทิเองด้วย
          7. ขนมไทยมีมะพร้าวกับไข่แดงเป็นส่วนประกอบหลัก  ทั้งมะพร้าวและไข่แดงมีประโยชน์มาก แต่ที่ผ่านมาถูกวางยาว่าเป็นอาหารไขมันสูงอันตราย ทั้งที่ จริงแล้วไข่แดงนี่เองที่ช่วยลดไขมัน ส่วนมะพร้าวในขนมอย่าง ตะโก้ ขนมครก กล้วยบวชชี ขนมใส่ไส้ ช่วยให้พลังงานและไขมันสายสั้นที่ย่อยง่ายและถูกขับออกจากร่างกายได้ง่าย
          8. น้ำพริกแบบไทย ๆ ที่ใส่กะปิ ไทยเรามีน้ำพริกสารพัดที่เข้ากะปิ บางชนิดโขลกปลาแห้งและกุ้งแห้งลงไปทำให้ได้แคลเซียมเพิ่มอย่างเข้มข้น ส่วนในกะปิมี "น้ำมันเคย" ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญอย่าง "แอสตา แซนทิน" อยู่ซึ่งฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบในหลอดเลือดหัวใจ บำรุงสายตาและสมอง นอกจากนั้นยังป้องกันมะเร็งได้ด้วย
          9.ผลไม้ไทยมีวิตามินเป็นทีม  เรียกว่ายกทีมกันมาต้านชรา ฝรั่งว่าผลไม้สุขภาพต้องเป็น "เบอรี่" ซึ่งไทยเรามีสุดยอดผลไม้ในกลุ่ม "เบอรี่" แบบฝรั่งเช่นกัน อย่างลูกหม่อน  ลูกหว้า มะยม เชอรีไทย หรือแม้แต่ลูกตะขบ มะเม่าหรือโทงเทงฝรั่งที่มีสารพวก "โพลีฟีนอลส์" ที่ช่วยป้องกันหลอดเลือดสมองช่วยเรื่องความจำได้เช่นเดียวกัน
          10.ผักพื้นบ้านไทยมีสรรพคุณเป็นยา รักษาได้สารพัดโรคจนกระทั่งมะเร็ง  ที่สำคัญคือหาง่าย มองไปตามรั้วแม้ในกรุงเทพฯก็ยังพอเห็น หาได้ในทุกฤดูกาลสลับกันไปไม่ว่าจะชะอมที่เป็นผักกลุ่ม "ลีกูมส์" ที่ช่วยต้านชรา หรือว่าผักหวาน ผักกูด กระถิน ตำลึง ยอดมะขามอ่อน อีกทั้งเรายังมีเห็ดที่มีสรรพคุณทางการแพทย์โดยไม่ต้องพึ่งซุปเห็ดอาหารเสริม อย่างเห็ดฟาง เห็ดโคน เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนูดำ เห็ดเข็มทองและเห็ดหอม.

pageview  1205892    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved