HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 17/10/2556 ]
นอนกรน เสี่ยงหย่อนสมรรถภาพ ทางเพศ จริงหรือไม่ (2)

 

  นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมุติฐานว่าน่าเป็นจากระดับฮอร์โมนทางเพศ เช่น ฮอร์โมนเพศชายชื่อเทสโทนเตอร์โรนจะสูงขึ้นระหว่างนอนและระดับฮอร์โมนลดลงเมื่อขาดการนอนหลับ
          การนอนกรนเป็นสาเหตุให้ตื่นนอนเป็นระยะ ๆ และเกิดภาวะอดนอนเรื้อรัง (Chronic sleep deprivation)   ดังนั้นภาวะหยุดหายใจชั่วคราว (apnea) อาจมีผลโดยตรงให้ระดับของฮอร์โมนลดลงและมีผลให้เกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (erectile dysfunction)
          ภาวะฮอร์โมนเพศชายบกพร่องมักพบบ่อยในผู้ป่วยภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับที่ไม่ได้รับการรักษา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ป่วยเหล่านี้
          มีการศึกษาที่น่าสนใจเมื่อเร็วๆนี้ในผู้หญิงจำนวน 80 คนอายุระหว่าง 28 และ 64 ปี ซึ่งมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ เปรียบเทียบกับผู้หญิง 240 คนที่ไม่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
          พบว่าในผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจชั่วคราวมีอัตราของการมีเพศสัมพันธ์ผิดปกติ (sexual disorder) อย่างมีนัยสำคัญ
          นอกจากนี้นักวิจัยค้นหาอาการของปัญหาทางเพศในผู้ชายจำนวน 401 คนซึ่งมาที่คลินิกสำหรับภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ พบว่าผู้ป่วยซึ่งได้รับการวินิจฉัยประมาณร้อยละ 70 มีโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศร่วมด้วย
          ผลของการรักษา
          การรักษาภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับประกอบด้วยเครื่องเป่าความดันลมเพื่อเปิดขยายทางเดินหายใจ (Continuous Positive Airway Pressure :  CPAP)  การรักษาด้วยยา  หรือการผ่าตัดบางส่วนของลิ้นไก่และเพดานอ่อนออก (uvulopalatopharyngoplasty)ไปเพื่อเปิดทางเดินหายใจส่วนบนส่วนใหญ่
          มีรายงานว่าวิธีการรักษาทั้งหมดสามารถช่วยสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะเครื่องเป่าความดันลมเพื่อเปิดขยายทางเดินหายใจช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้นร้อยละ 40
          นอกจากนี้มีการวิจัยประสิทธิภาพเปรียบเทียบระหว่างยาขยายหลอดเลือดองคชาตและเครื่องเป่าความดันลมเพื่อเปิดขยายทางเดินหายใจสำหรับผู้ป่วยโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศและภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
          พบว่ายาขยายหลอดเลือดองคชาตดีกว่าเครื่องเป่าความดันลมเพื่อเปิดขยายทางเดินหายใจในเรื่องของความสำเร็จในการพยายามมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งระดับความพึงพอใจของผู้ป่วยและคู่นอน
          อย่างไรก็ตามเครื่องเป่าความดันลมเพื่อเปิดขยายทางเดินหายใจเป็นผลให้หน้าที่ทางเพศดีขึ้น และการรักษาปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคประจำตัวที่ เกิดร่วมด้วยเป็นสิ่งสำคัญที่จะให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้นด้วย
          สรุป
          โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดลงพบบ่อยในผู้ป่วยภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ อาจได้รับการวินิจฉัยต่ำกว่าปกติ เนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้รายงานปัญหาหรือเข้าใจความสัมพันธ์ดังกล่าว
          อาจสรุปได้ว่าภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ความสัมพันธ์ของโรคทั้งสองได้รับการวินิจฉัย การตระหนัก หรือความเข้าใจยังน้อยอยู่
          อาการของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อาจกลับมาดีได้ทั้งการมีเพศสัมพันธ์หรือความพึงพอใจของผู้ป่วยส่วนใหญ่
          ไม่ว่าจะมีความรุนแรงของโรคมากเพียงใด ถ้าภาวะหยุดหายใจในขณะนอนหลับได้รับการรักษา เช่น การใช้เครื่องเป่าความดันลมเพื่อเปิดขยายทางเดินหายใจ อาจช่วยให้ทั้งหน้าที่ทางเพศและความพึงพอใจในผู้ป่วยส่วนใหญ่.

pageview  1205841    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved