ถอนใบกระท่อมพ้นบัญชียาเสพติดประเภท 5 ถึงโค้งสุดท้าย บอร์ดยุติธรรมชี้เสพแบบวิถีชาวบ้าน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แถมยังได้ประโยชน์  เพราะมีสรรพคุณทางสมุนไพรรักษาโรค  เตรียมเสนอกระทรวงสาธารณสุข รับไว้ไปพิจารณาต่อ หากไม่เห็นด้วยต้องยุติประเด็น "พงศพัศ" ย้ำทำสำเร็จจะไม่กระทบภาพรวมปราบยานรกในเมืองไทย
          เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงข้อสรุปการเสนอถอนพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษว่า ที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ได้รับฟังและมีความเห็นร่วมกันได้ข้อสรุปว่า การเสพพืชกระท่อมเป็นวิถีชาวบ้านของประชาชนในหลายพื้นที่ที่นิยมบริโภค เพื่อกระตุ้นในการทำงาน ไม่มีผลเป็นอันตราย ต่อร่างกายแต่อย่างใด รวมทั้งพืชกระท่อมมีประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์หลายประการ โดยเฉพาะสามารถเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคได้ จึงเห็นสมควรขอให้ถอนพืชกระท่อมให้ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 พร้อมกับส่งเสริมให้พืชกระท่อมเป็นพืชสมุนไพรและขอให้เป็นสารที่ถูกควบคุมในฐานะวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
          อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมยังเห็นว่ากระท่อมเป็นสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท จึงยังต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่นำพืชกระท่อมไปเป็นส่วนผสมของยาเสพติดรูปแบบต่าง ๆ โดยหลังจากนี้ จะมีหนังสือสรุปความเห็นในนามกระทรวงยุติธรรม พร้อมข้อมูลสนับสนุนไปถึง นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข เพื่อขอให้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษกระทรวงสาธารณสุข แต่หากไม่เห็นด้วยเรื่องดังกล่าวก็ต้องยุติ
          ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวยืนยันว่า การถอดพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด จะไม่กระทบกับภาพรวมการแก้ปัญหายาเสพติดของประเทศ เนื่องจากจะมีการพิจารณาเพิ่มโทษกับผู้ที่นำสารไมทราไจนีน จากใบกระท่อม ไปผลิตเป็นยาเสพติดประเภทอื่น เช่น น้ำสี่คูณร้อย.