HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 06/09/2556 ]
คนไทยเรามีเลือดนักสู้ 'คิดสั้น..คิดผิด' 'หนีปัญหา'ไม่น่าทำ

 จากจำนวนประเทศเป็นทางการทั่วโลกที่มี 190 กว่าประเทศ และมีจำนวนประชากรโลกรวมประมาณ 7 พันล้านคนเศษ เมื่อวันก่อนมีรายงานข่าวจากการเปิดเผยของสมาคม สะมาริตันส์ อ้างอิงถึงองค์การอนามัยโลก ว่า... สถิติช่วงปี 2551-2552 ทั่วโลกมีคน 'ฆ่าตัวตาย" ประมาณ 8 แสน ถึง 1 ล้านคนต่อปี ตายด้วยสาเหตุนี้เฉลี่ย 1 คน ต่อ 40 วินาที และมีบุคคลรอบข้างผู้ตายที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจประมาณ 5-10 ล้านคน
          สถิตินี้บ่งชี้ว่า "ฆ่าตัวตาย" ยังเป็นเรื่องใหญ่
          และ 'ในประเทศไทย" เรื่องนี้ก็มีอยู่ตลอด!!!
          ทั้งนี้ ทั้งรัก โลภ โกรธ หลง คลั่ง ซึมเศร้า เครียด ด้วยกรณีต่าง ๆ อย่างรุนแรง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คิด "ฆ่าตัวตาย" ได้ทั้งนั้น ซึ่งสำหรับในประเทศไทย ที่ผ่าน ๆ มาก็มีการฆ่าตัวตายด้วยสาเหตุเหล่านี้ในกรณีต่าง ๆ อย่างหลากหลาย และล่าสุดก็มีการระบุถึงสถิติในประเทศไทยว่า...ประเทศไทยถูกจัดเป็นประเทศที่มีการฆ่าตัวตายในลำดับที่ 58 อายุเฉลี่ยของคนไทยที่ฆ่าตัวตายอยู่ในช่วง 15-49 ปี โดยมีอัตราการฆ่าตัวตายเฉลี่ยประมาณ 5.9 คน ต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่ง ณ ช่วงกลางปี 2556 ประเทศไทยมีประชากรรวมประมาณ 64.6 ล้านคนเศษ ก็เท่ากับมีอัตราการฆ่าตัวตายกว่า 3,800 คน นี่มิใช่ตัวเลขน้อย ๆ
          ตัวเลขที่ว่านี้เป็นตัวเลขจากการระบุของสมาคมสะมาริตันส์ ที่อ้างอิงองค์การอนามัยโลก ขณะที่ตัวเลขของหน่วยงานในไทยเองยิ่งมิใช่น้อย ๆ โดยเมื่อช่วงกลางเดือน พ.ค. 2556 ที่ผ่านมาทางกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ระบุไว้ว่า...สถิติในประเทศไทย ช่วงต้นปี 2555 จนถึงเดือน พ.ค. 2556 การฆ่าตัวตายของคนไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6.2 คนต่อประชากร 1 แสนคน ตายด้วยสาเหตุนี้ประมาณ 3,985 คนต่อปี!!!
          ในจำนวนนี้เป็นชาย 3,055 คน หญิง 930 คน
          เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ทั้งของโลก และของประเทศไทย ซึ่งสำหรับในประเทศไทยก็อาจจะเป็นปัญหาที่มีการขยายวงใหญ่ขึ้น เรื่อย ๆ ตามปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าวิถีชีวิตของคนไทย ที่นับวันก็จะยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ
          "ฆ่าตัวตาย" ก็มีหลายภาคส่วนพยายามสกัด
          แต่การสกัดที่ดีที่สุดคือ 'ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
          กับเรื่องนี้ ทางกรมสุขภาพจิตเคยสะท้อนผ่าน "สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์" ไว้ว่า...ปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าวิถีชีวิตของคนไทย วิกฤติ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากจะทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายแล้ว ยังเป็นสาเหตุทำให้ความสุขของคนไทยลดลง โดยสถานการณ์ที่นำไปสู่วิกฤติชีวิตนั้นแบ่งได้ 2 แหล่งคือ...1. เกิดจากมีเหตุภายนอก นอกเหนือการควบคุม มากระทบชีวิต และ 2. เกิดจากตนเอง หรือปัจจัยภายในตัวเอง ซึ่งจากผลวิจัยความสุขของศูนย์วิจัยความสุขชุมชนพบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อความสุขของคนไทยขึ้นอยู่กับ "สุขภาพใจ" เป็นอันดับแรก โดยการเผชิญปัญหาที่ไม่สามารถจัดการได้ การแก้ปัญหาด้วยวิธีที่คุ้นเคยแล้วไม่ประสบผล ทำให้ ชีวิตเสียสมดุล
          อย่างไรก็ดี ต้องพึงระลึกว่า วิกฤติชีวิตเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ ซึ่งสามารถจะฟันฝ่าได้ โดยการจะฟันฝ่าไปได้ก็ต้องปรับความคิด ต้องสร้าง "พลังสุขภาพใจ" ให้แข็งแรงพอ ยิ่งในยามที่สังคมไทยกำลังเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง วิกฤติต่าง ๆ สุขภาพใจก็ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องสร้างขึ้น เหมือนกับสุขภาพกาย
          '1.ทำใจให้นิ่ง และพิจารณาปัญหาด้วยความเข้าใจ, 2.มองโลกในแง่ดี หมั่นเติมความหวังและให้กำลังใจตัวเอง, 3.เข้าใจธรรมชาติของปัญหา ว่าปัญหาแต่ละประเภทแตกต่างกัน, 4.หันมองดูตัวเอง อย่าโทษคนอื่น, 5.สร้างความเชื่อมั่นศรัทธา ต่อชีวิต และสิ่งดีงาม, 6.ลงมือทำในสิ่งที่พอทำได้ ด้วยความเข้าใจ อดทน, 7.ดูแลสุขภาพกายให้สดชื่นแข็งแรง เพื่อพร้อมรับมือกับปัญหา"...นี่เป็นข้อแนะนำ 7 ประการ ในการฝึกฝนเพื่อสร้างพลังสุขภาพจิต-สุขภาพใจ อีกทั้งยังมีการแนะนำทริคหรือเทคนิค ไว้ด้วยว่า...
          พอเห็นปัญหาก็ต้องอย่ามองไปทางลบเสียหมด เพราะจะยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ ซึ่งจริง ๆ แล้วเมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับชีวิตก็น่าจะถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะหันมาดูตัวเอง แล้วก็จะเห็นวิธีพลิกจากวิกฤติได้ในที่สุด ต้องรู้จักพลิกความคิดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยพลังสุขภาพจิตที่ดี ด้วยการมี "สมรรถภาพทางจิต" ซึ่งพลังสุขภาพจิตที่ดี สมรรถภาพทางจิต ก็สามารถฝึกฝนเพื่อสร้างขึ้นได้ เช่นเดียวกับสุขภาพกาย สมรรถภาพทางกาย และเมื่อมีพลังทางจิตใจที่ดี ทุก ๆ อย่างก็สามารถเป็นโอกาสได้เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มันได้มากน้อยแค่ไหน
          ทั้งนี้ ย้อนดูอายุเฉลี่ยคนไทยที่ฆ่าตัวตาย คือ 15-49 ปี ตัวเลขนี้สะท้อนว่า..."วัยรุ่น" มีแนวโน้มฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น ซึ่งต่อ ๆ ไปตัวเลขเริ่มต้นของอายุเฉลี่ยของคนไทยที่ฆ่าตัวตายอาจจะน้อยลงกว่า 15 ปี คืออาจจะขยับลงถึงกลุ่ม "เด็ก" ถ้าคนไทยยัง 'ดูแลสุขภาพจิต-สร้างสมรรถภาพใจ" กันอย่างไม่ค่อยจริงจัง
          คนไทยน่าเห็นใจที่มีปัญหารุมเร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ
          แต่คนไทยเรามีเลือดนักสู้ ก็น่าจะกล้าสู้ปัญหา
          'ฆ่าตัวตาย" คือหนีปัญหา อย่าฮิตทำกันเลย!!!


pageview  1205855    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved