เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงคัดค้านนโยบายการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ หรือ เมดิคัล ฮับ ว่า อยากถามว่าคัดค้านเรื่องอะไร รัฐบาลไม่ได้เอาเงินไปสนับสนุน แต่สิ่งที่จะดำเนินการ คือ การช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่เข้ามารับการรักษา มาสปา ในประเทศไทย ปกติจะให้วีซ่า 30 วัน ดังนั้นจึงได้ประชุมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขยายวีซ่าให้กับคนต่างชาติที่เข้ามารักษาในประเทศไทยเป็น 90 วัน นอกจากนี้หลายประเทศ เช่น แถบตะวันออกกลาง รัฐบาลออกค่าใช้จ่ายให้กับคนของเขา แต่เนื่องจากค่ารักษาในประเทศไทยมีราคาถูก เมื่อมีการนำไปเบิกค่ารักษาพยาบาลในประเทศอาจมีอุปสรรค อะไรหรือไม่ กรณีเช่นนี้กระทรวงสาธารณสุขก็จะเข้าไปช่วยดูแลแก้ไขปัญหาให้หากมีอะไรบกพร่อง
ด้าน นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า การแสดงความเห็นคัดค้านก็ถือเป็นความหวังดี แต่เป็นการคิดคนละอย่าง โดยคนคัดค้านคิดว่าจะมีการนำทรัพยากรของประเทศโดยเฉพาะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ ไปรักษาคนต่างชาติ ทำให้ไม่เป็นธรรมกับคนไทย ก็ต้องชี้แจงทำความเข้าใจว่า เมดิคัล ฮับ เป็นการบริการเชิงธุรกิจก็จริง แต่สามารถเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ และไม่ได้รักษาเฉพาะคนต่างชาติ คนไทยก็มารักษาได้ ขณะเดียวกันนอกจากจะนำรายได้เข้าประเทศแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือ จะต้องบริหารจัดการให้ลงตัว ไม่ทำให้บุคลากรที่มีอยู่จำกัดมาทุ่มเรื่องนี้จนขาดแคลน ต้องทำอย่างพอดี
ด้านกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านนโยบายเมดิคัล ฮับ ว่า เป็นนโยบายที่ขัดต่อมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 3 พ.ศ. 2553 จึงขอคัดค้านการใช้เงินสนับสนุน รวมถึงการที่โรงเรียนแพทย์เอาเงินบริจาคสร้างตึกไปให้บริการคนเพียงบางกลุ่มและชาวต่างชาติ และเสนอให้กระทรวงการคลังใช้มาตรการทางภาษีกับโรงพยาบาลที่ดำเนินตามนโยบายดังกล่าว.
