ที่ห้องวิจัยทางกายภาพบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ คณะนักวิจัยกลุ่มวิจัยปวดหลัง ปวดคอ และปวดข้ออื่น ๆ คณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย รศ.ดร.รุ้งทิพย์ พันธุเมธากุล หัวหน้ากลุ่มวิจัยปวดหลัง ปวดคอ และปวดข้ออื่น ๆ คณะเทคนิคการแพทย์ ม.ขอนแก่น พร้อมด้วย ดร.มานิดา สว่างเนตร รองหัวหน้ากลุ่มวิจัยปวดหลังฯ ร่วมกันแถลงผลงานวิจัย เรื่องอิทธิพลของลักษณะคันบังคับต่อแรงบีบมือ และการทำงานของกล้ามเนื้อแขนท่อนล่างขณะไถนา
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานความสำเร็จของคณาจารย์นักวิชาการที่ได้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดหลัง ปวดคอ และปวดข้ออื่น ๆ อันเป็นผลมาจากสิ่งที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน และการปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้อง โดยหวังให้ประชาชนได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และตระหนักในการระมัดระวังตนเอง อีกทั้งเพื่อการประชาสัมพันธ์ผลงานความสำเร็จของคณะเทคนิคการแพทย์ ม.ขอนแก่น ที่เกิดจากศักยภาพและความทุ่มเทของบุคลากร โดยมีการสาธิตวิธีการศึกษา และการแสดงการพัฒนาอุปกรณ์ในการวิจัยเกี่ยวกับเกษตรกรใช้รถไถนาเดินตาม ซึ่งสมมุติห้องวิจัยทางกายภาพบำบัดเป็นทุ่งนา มีอุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นมาเปรียบเป็นรถไถนาเดินตามที่ชาวนาไทยใช้กันโดยทั่วไป
ดร.มานิดา กล่าวว่า รถไถนาเดินตามเป็นรถไถนาที่ชาวนาไทยใช้กันโดยทั่วไป จากการสังเกตการไถนา การประเมินลักษณะการไถนาและความปลอดภัยขณะไถนาพบว่าการไถนาเป็นเวลานานมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางกระดูก และกล้ามเนื้อในส่วนทั้งข้อไหล่ ข้อมือ ข้อเท้า รวมทั้งเอว งานวิจัยครั้งนี้มีการเปรียบเทียบคันบังคับ 2 รูปแบบคือ แบบเดิมซึ่งเป็นแบบที่ทำให้ข้อมือกระดกมากกว่าปกติ และมีโอกาสทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อข้อมือได้ เปรียบเทียบกับคันบังคับแบบใหม่ที่ทำให้การกระดกข้อมือขณะบังคับลดลง สิ่งที่จะสามารถบ่งบอกได้ว่าคันบังคับแบบใดทำให้การทำงานของมือมีประสิทธิภาพคือ แรงบีบมือขณะไถ และระดับการทำงานของกล้ามเนื้อขณะไถ ซึ่งพบว่า คันบังคับแบบใหม่ทำให้การ กระดกของข้อมือลดลง ทั้งนี้การไถนาเป็นเวลานานมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางกระดูก และกล้ามเนื้อ ทั้งข้อไหล่ ข้อมือ ข้อเท้า เท้า รวมทั้งเอว โดยงานวิจัยนี้สนใจแก้ปัญหาเรื่องมือ และข้อมือ นำมาซึ่งแนวทางการปรับปรุงรูปแบบคันบังคับแบบใหม่ที่ช่วยลดการเกิดอาการบาดเจ็บลงได้ ดังกล่าว.