HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 13/04/2555 ]
ตีวง 13 แห่งฉกซูโดจับมืออีกยาบ้าล้านเม็ด

ดีเอสไอแฉฉกศูโดโยง รพ.-คลินิกรวม 13 แห่ง ตร.จับอีกยาบ้ากว่าล้านเม็ด ส่ง ป.ป.ช. เชือดบิ๊ก รพ.
          ความคืบหน้าการสอบสวนคดีลักลอบยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนจากโรงพยาบาลจำนวนหลายล้านเม็ดได้งวดเข้ามาทุกขณะล่าสุดเมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทร์ขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง เปิดเผยว่า จากข้อมูลการตรวจสอบโรงพยาบาลที่พบความผิดปปกติในการสั่งซื้อยาแก้หวัด 12 แห่ง พบว่าขณะนี้มียาแก้หวัดที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟตรีนหายออกไปจากสถานพยาบาลกว้า 11,602,514 เม็ด ยาแก้หวัดสูตรน้ำอีก 6,500 ขวด ส่วนยอดยาที่หายออกจากระบบรักษาพยาบาลทั้งประเทศยังต้องตรวจสอบต่ไปโดยอีเอสไอยังคงเดินหน้าการทำงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อตรวจสอบโรงพยาบาลทั้งรัฐ เอกชน และคลินิก ที่มีความปิดปกติในการสั่งซื้อยาอย่างต่อเนื่อง
          สำหรับการทำงานร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)และสำนักนิติวิทยาศาสตร์นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบแผงยาแก้หวัดที่คนร้ายนำมาทิ้งไว้ ซึ่งคาดว่าสามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้เพราะนอกจากแผงยาแก้หวัดแล้วยังพบถุงมือและที่แคะยา ซึ่งสามารถตรวจสอบดีเอ็นเอบุคคลได้ พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ลายมือผู้ลงนามสั่งซื้อยา ซึ่งโรงพยาบาลบางแห่งอ้างว่ามีการปลอมลายเซ็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสั่งซื้อยาด้วย
          แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนคดีซูโอดีเฟดรีนเปิดเผยว่า ดีเอสไอเริ่มต้นการสอบสวนกรณีดังกล่าวจากการพบซองยาและแผงยาจำนวนมากถูกทิ้งไว้ที่กองขยะ ด้านหลังหมู่บ้านธารทิพย์วิลล่า หมู่ 3 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พร้อมแผงยาและเม็ดจำนวนมากทั้งที่ถูกฉีกออกแล้วและที่อยู่ในแผงภายในบ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 2 ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งนายอุดร การสมพรตมาขอเช่าบ้านพร้อมกับนายสมชัย รักยอดยิ่ง โดยมีการทำสัญญาช่าเดือนละ 1 หมื่นบาท โดยอุดรเคยถูกให้ออกจากงานเพราะต้องคดียาอีมาแล้วที่สถานีตำรวจภูธรช่างเผือก จ.เชียงใหม่ศาลจึงอนุมัติหมายจับนายอุดรและนายสมชัยข้อหาร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ไว้ในครอบครองเกินกว่ากฎหมายกำหนด
          อย่างไรก็ตาม ผลการสืบสวนสอบสวนพบว่าการที่ยาหายออกจากระบบทั้งจากโรงพยาบาลอุดรธานี จ.อุดรธานี โรงพยาบาลทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ และโรงพยาบลดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ มีความเชื่อมโยงกันทั้งหมดและน่าเชื่อว่าจะมีการนำยาดังกล่าวไปสกัดเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด
          แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า จากการตรวจยึดยาและแผงยาที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ตำรวจพบกล่องยาแก้หวัดและแผงยาแก้หวัดเช่น ซูโดอีเฟดรีนไวตาเฟด แอคติเฟดไซนูเซด ไตรเฟด และไตไป จำนวนมาก อีกทั้งยังพบแผงยาแก้หวัดที่ถูกตัดละเอียดแล้วนำไปทำลายพร้อมกล่อง ซึ่งตรวจสอบพบว่านายอุดรอดีพพนักงานเป็นผู้รับกล่องยาไป สาวนโรงพยาบาลอุดรธ่ณี พบว่ามียาหายไประมาณ7.2ล้านเม็ด โดนมีนายสมชาย แซ่โค้ว เภสัชกรชำนาญการเป็นผู้นำออกไป ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับไว้แล้ว
          ส่วนการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรทองแสนขัน พบว่าโรงพยาบาลดังกล่าวมีการสั่งซื้อยาจำนวน 1.2 ล้านเม็ด แต่ยาไม่เข้าระบบคลังยา แต่ไปพบกล่องบรรจุยาระบุชื่อโรงพยาบาลดังกล่าวอยู่ที่บ้านเช่าในเขต ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทางตำรวจพบว่าเภสัชกรโรงพยาบาล และระดับผู้บริหารโรงพยาบาลมีการกระทำผิดต่อหน้าที่โดยส่งสำนวนการสอบสวนให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ไปแล้ว
          แหล่งข่าวจากชุดสอบสวนเปิดเผยต่อว่าส่วนการสอบสวนโรงพยาบาลดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ พบยาหายออกจากระบบ 2 หมื่นเม็ด จากจำนวน 9 หมื่นเม็ด ส่วนโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ตรวจสอบพบว่าบริษัทยาได้แอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยากว่า 9 หมื่นเม็ด ก่อนนำไปขายต่อให้ร้านขายยาหลายแห่ง สำหรับคลินิกเอกชนที่ตรวจสอบพบความเชื่อมโยงว่าเจ้าของคลินิกเป็นอดีตผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ .เชียงใหม่ และเป็นข้าราชการระดับ 9 มีการสอบสวนพบว่ามีการสั่งยาสูตรซูโดเฟดรีนสูตรเดี่ยวมากถึง 1 แสนเม็ด
          แต่เมื่อตรวจสอบสต๊อกยากลับพบว่าเหลือเพียง 4,000 เม็ด โดยไม่มีการทำรายงานการใช้ยา และเมื่อสอบถามถึงบริษัทที่จำหน่ายยาก็ไม่สามารถตอบได้และไม่มีเบอร์ติดต่อ จีงได้ประสานให้ตำรวจอายัดยาไว้ตรวจสอบต่อไป ตังนั้น จึงสรุปได้ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการทางสถานีตำรวจทั้ง 3 แห่ง จึงส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. สอบสวนแล้ว
          ส่วนความเชื่มโยงการตรวจยึดยาและแผงยาได้ที่ อ.สันกำแพง พบว่าในโรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พบมียาหาย3.5 แสนเม็ด โดย น.ส.สดชื่น วิโทจิต เภสัชกรประจำคลังยาระบุว่าได้ส่งยาให้นางสุภคนิจ หนือนิจ ศรีพนา เพื่อส่งยาไปที่ จ.ร้อยเอ็ด อย่างไรก็ตามแม้จะมีเอกสารระบุว่ากรณีดังกล่าวมีการให้ผลประโยชน์ข้าราชการระดับสูงและมีการอ้างว่าพบเอกสารเชื่อมโยงไปยังข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณะสุข จากการตรวจสอบของดีเอสไอยังไม่พบความเชื่อมโยงดังกล่าวดังนั้น พฐ.และสถาบันนิติวิทย์จะลงไปตรวจสอบพิสูจน์ลายมือในเอกสารอีกทางหนึ่ง
          สำหรับที่โรงพยาบาลภูสิงห็ จ.ศรีสะเกษซึ่ง อย.ระบุว่ามียอดการซื้อ 3.7 แสนเม็ดแต่ในระบบของโรงพยาบาล บันทึกยอดการสั่งซื้อเพียง 1.2 แสนเม็ดเท่านั้น และโรงพยาบาลฮอด จ.เชียงใหม่ แจ่งว่ามียอดยาหายออกจากระบบ 2 หมื่นเม็ด เช่นเดียวกับที่โรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พบว่ามีกานแอบออ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาทั้งสูตรเม็ดและน้ำจำนวนมากนอกจากนี้ในส่วนของโรงพยาบาลสยามราษฎร์ จ.เชียงใหม่ พบว่าผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อปลอมลายเซ็นอำนวยการโรงพยาบาลสั่งซื้อยาสูตรเดี่ยวซูโดอีเฟดรีนถึง 2 แสนเม็ด และสูตรผสมอีก 2.2แสนเม็ด โดยกรณีนี้พบว่ามีผู้แทนบริษัทยาแห่งหนึ่งมาติดต่อให้ผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อสั่งซื้อยาแก้หวัดสูตรผสมจากบริษัทมิลาโน่โดยผู้แทนบริษัทยาเป็นผู้ออกเงินให้และให้ผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อเป็นผู้ปลอมลายเซ้นให้สำหรับการตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างลอตนัมเบอร์ของโรงพยาบาลที่ตรวจพบความผิดปกติกรณีการจับกุมยาแก้หวัดลอดตใหญ่มีที่ อ.สันกำแพง เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์นั้น พบมีความเกี่ยวเนื่องกันดังนี้ คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี พบ 1.6 แสนเม็ด คลินิกเสชกรรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ พบ 2.3หมื่นเม็ดคลินิกแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช 7.9หมื่นเม็ด คลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร 6 หมิ่นเม็ด คลินิกเวชกรรมด้านสูตินรีเวช จ.เชียงใหม่ 1.1หมื่นเม็ด คลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม 1.4 แสนเม็ด ร้านเภสัชกรแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี ไม่ระจำนวน โรงพยาบาลนวมินทร์ 1 จำนวน 1 แสนเม็ด โรงพยาบาลดอยหล่อไม่ระบุจำนวนโรงพยาบาลทองแสนขัน 2.5 หมื่นเม็ด โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี 7.5 หมื่นเม็ด คลินิกหู คอ จมูก จ.ชลบุรี 5.2 หมื่นเม็ด และคลินิกแพทย์แห่งหนึ่ง จ.ลพบุรี 8.1 หมื่นเม็ด
          นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าได้ลงนามยกเลิกคำสั่งประกาศแร่องการระงับการจ่ายยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนแล้ว มีผลให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวง 845 แห่ง สามารถกลับมาจ่ายยาสูตรดังกล่าวให้แก่ผู้ป่วยได้ตามปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามกรอบที่วางไว้ ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแถลงยืนยันมี ผอ.โรงพยาบาล 3 แห่งเกี่ยวข้องยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ได้แก่ รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ รพ.อุดรธานี จ.อุดรธานี และโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งนั้น จะมอบอำนาจให้คณะกรรมการกลางที่มี นพโสภณ เมฆธนรองปลัดกระทรวงสาธารณะสุขตรวจสอบเพิ่ม โดยนพข้อมูลจากผลสอบสวนเพื้องต้นของจังหวัดมาร่วมพิจารณาและดูว่าจะต้องมีการย้ายมาช่วยราชการหรือไม่
          ด้สนการปราบปรามการค้ายาเสพติด วันเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ดามาพงศ์ ผบ.ตร.แถลงข่าวการจับกุมนายสุชินหรือชิน เรียนศรี อายุ41ปีอยู่บ้านเลขที่ 46/4 หมู่2 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาครและ นายจิตรภาชชถาพันธ์ หรือ อาท อุ่นวงษ์แหวนอายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 66/26 หมู่ 2 ต.บ้านบ่อ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางยาบ้า 1,080,000 เม็ด มูลค่ากส่า 370 ล้านบาท รถเก๋งโตโยต้าวีออสสีขาว ทะเบียน กฉ 6564 ราชบุรี ทรศัพท์มือถือ 1 เครือง
          การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน บช.ปส.สืบทราบว่า กลุ่มผู้ค้ายาบ้าจะมีการนัดส่งมอบของกันที่บริเวณตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยเป้าหมายจะใช้รถเก๋งวีออส สีขาวเป็นพาหนะ เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังซุ่มสังเกตการณ์ โดยมีรถเก๋งออดี้สีแดงขับตามเข้ามาจอดโดยพบว่าคนขับรถทั้งสองมีการเจรจากันก่อนจะมีการถ่ายสิ่งของบางอย่างออกจากกระโปรงท้ายรถเก๋งวีออสและขับออไป เจ้าหน้าที่จึติดตามรถยนต์ทั้งสองคันไประหว่างนั้นคนร้ายเริ่มรู้ตัวและพยายามขับรถหนี ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสกัดจับไวเด้ทั้งสองคนบริเวณใกล้บ้านเลขที่ 85/1 หมู่ 3 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป
          ด้านนายสุชิน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนส่งยามาก่อนหน้านี้ทำมา 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 1 แสนบาท ล่าสุดได้รับการว่าจ้างจากนายไพฑูรย์ ซึ่งเป็นเครือข่ายยาคุกบางขวาง ให้ส่งยาให้นายอาท แต่ครั้งนี้จะได้ค่าจ้างเป็นยาบ้า 4 หมื่นเม็ด ซึ่งเตรียมยำไปขายปลีกต่อ


pageview  1205111    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved