สธ.สุ่มตรวจอาหาร-น้ำดื่ม สถานีขนส่งพบกว่าครึ่งมีเชื้อก่ออาหารเป็นพิษ ตร.เข้มทุกพื้นที่ ยันสงกรานต์ปีนี้ กทม.ปลอดภัย ทางหลวงเข้มเมาแล้วขับ
          นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีผู้ใช้บริการสถานีขนส่งจำนวนมาก ประกอบกับอากาศร้อนทำให้อาหารที่ปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์เน่าเสียได้ง่ายส่งผลให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ หรือโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันได้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงได้สุ่มเก็บตัวอย่างอาหารพร้อมบริโภคตามสถานีขนส่งต่างๆ จำนวน 81 ตัวอย่าง พบว่ามีการปนเปื้อนเชื้ออีโคไล (E.coli) 32 ตัวอย่าง และพบเชื้อโรคอาหารเป็นพิษ ได้แก่ เชื้อสแตฟฟิโล คอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) 6 ตัวอย่าง เชื้อซัลโมเนลล่า (Salmonella spp.) 4 ตัวอย่าง และเชื้อวิบริโอ พาราฮีโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) 1 ตัวอย่าง หรือคิดเป็น 53.08%
          รมช.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังความปลอดภัยอาหารพร้อมบริโภคที่วางจำหน่ายตามสถานที่ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ายังมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งเชื้อเหล่านี้ทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เป็นไข้ บางรายอาจช็อคหมดสติและรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ การรักษาอาการเบื้องต้นทำได้โดยให้ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ หรือโออาร์เอส โดยหลังดื่มแล้ว 8-12 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้นให้นำส่งโรงพยาบาลทันที
          นพ.สุรวิทย์ยังแสดงความเป็นห่วงด้านความปลอดภัยในการบริโภคน้ำดื่มและน้ำแข็งช่วงหน้าร้อนว่าจากการสุ่มเก็บตัวอย่างน้ำดื่มบรรจุขวดและน้ำแข็งบด มาตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พบว่ามีการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์และพาหะนำโรค โดยเฉพาะเชื้อโคลิฟอร์ม(Coliform) เชื้ออีโคไล(E.coli)และเชื้อโรคอาหารเป็นพิษ ได้แก่ คลอสตริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์(Clostridium perfringens) จึงแนะนำว่าก่อนซื้อน้ำบรรจุขวดหรือเครื่องดื่มจากร้านค้าควรเลือกน้ำดื่มบรรจุขวดและน้ำแข็งหลอดบรรจุถุงพลาสติกที่ปิดสนิทและควรสังเกตฉลากว่ามีระบุเลข อย.รวมทั้งชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิต
          ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล วันที่ 10 เมษายน พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียกประชุมนายตำรวจระดับสูงเตรียมความพร้อมดูแลความสงบเรียนร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่ กทม.โดยยืนยันว่า พื้นที่ กทม.จะมีความปลอดภัยช่วงสงกรานต์ โดยได้สั่งการฝ่ายสืบสวนหาข่าวเฝ้าระวังเหตุร้ายอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
          พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ปีนี้จะเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจบนถนนสายต่างๆประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะการข่าวในกรุงเทพฯ ไม่มีรายงานเรื่องคาร์บอมบ์
          อย่างไรก็ตาม บช.น.ยังได้แจ้งห้ามใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และกระบอกฉีดน้ำที่ทำจากท่อพีวีซีในการเล่นน้ำสงกรานต์ หากพบว่าผู้ที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต-ทรัพย์สินจะถูกดำเนินคดีทางอาญาฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 พันบาท หากเป็นกรณีที่กระทำโดยประมาทให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายจะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 พันบาท รวมทั้งการเล่นประแป้งในลักษณะลวนลามเด็กผู้หญิงจะเข้าข่ายอนาจารมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
          สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ พบว่า 58.5% ไม่มีแผนเดินทางไปต่างจังหวัด 41.5% ตั้งใจไปต่างจังหวัด ทั้งนี้ 65.9% ระบุว่าตั้งใจจะไปเที่ยวสงกรานต์กับครอบครัว ขณะที่ 29.5% ตั้งใจจะไปกับเพื่อน เมื่อสอบถามถึงค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 53.8% ระบุค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 38.6% ระบุว่าเท่าเดิม ในขณะที่ 7.6% ระบุว่าลดลง เพราะต้องการประหยัด
          เมื่อสอบถามถึงนักการเมืองที่ชาวบ้านอยากรดน้ำดำหัวมากที่สุด พบว่า อันดับแรก 43.7% เลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อันดับสองหรือ 26.9% นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันดับสามหรือ 11.1% นายชวน หลีกภัย
          ส่วนอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชาวบ้านอยากรดน้ำดำหัวมากที่สุด พบว่า อันดับหนึ่งหรือ 40.2% เลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อันดับสอง 23.4% พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อันดับสาม 11.5% นายชวน หลีกภ้ย อันดับสี่ 11.0% นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ