ในเทศกาลวันสงกรานต์ทุกปี "สมิติเวช" เน้นความสำคัญความสัมพันธ์ของสถาบันครอบครัวและคนทุกเพศทุกวัย และเป็นโอกาสอันดีที่ญาติพี่น้องจะมาพบหน้ากันอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวเพื่อทำพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในวันสงกรานต์อันเป็นประเเพณีที่สืบต่อมายาวนานของคนไทย เป็นการปลูกฝังลูกหลานได้ดูแลเอาใจผู้สูงอายุให้เกิดมีกำลังใจ ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
          ไม่ว่าสุขภาพจะเป็นอย่างไร และอายุของเราจะเพิ่มมากแค่ไหน แต่ "ใจไม่เคยแก่" และต้องคอยรักษาใจไว้ไม่ให้กำพร้า คือ "ไม่มีที่พึ่ง"ใจที่ว่านี้ คือ ความรู้สึกซึ่งมีมาตั้งแต่เกิด เป็นของตัวเราเองโดยแท้ "ความแก่" เกิดขึ้นกับร่างกาย แต่ความรู้สึกไม่มีวัย และเติบโตตามสิ่งที่เรารับรู้ได้ แต่ความรู้สึกนี้สามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ความรู้สึกนี้ไม่มีวันแก่ มีแต่ความรับผิดชอบและข้อมูลที่ "ลองดูญาติผู้ใหญ่ของเราสิ ร่างกายอาจจะเป็นไปตามอายุ แต่ถ้าได้เจอลูกๆ หลานๆ เด็กๆ มาป้วนเปี้ยนๆ เดี๋ยวก็สดชื่น" ดังนั้นควรมารู้จักใจกันสักหน่อย มี 4 ส่วนเหมือนกันแต่เป็นเรื่องราวของความรู้สึกและรับรู้
          ส่วนที่ 1 ส่วนนี้ "เรารู้ และคนอื่นก็รู้" เหมือนกันว่าเราเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร
          ส่วนที่ 2 "เรารู้ แต่คนอื่นไม่รู้" คือ เรารู้ใจตัวเราเองว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร แต่คนอื่นไม่รู้ เรียกได้ว่าเป็น inner voice เลยทีเดียว
          ส่วนที่ 3 "เราไม่รู้ แต่คนอื่นรู้" เช่น บางคนมีนิสัยชอบโอ้อวด ตัวเองไม่รู้ คิดว่าดี แต่คนอื่นรู้หมดว่าไม่ดี
          ส่วนสุดท้าย "เราไม่รู้ คนอื่นไม่รู้" คือเป็นส่วนที่ยากที่สุด ส่วนอื่นๆ เรารับรู้ได้ คนอื่นรับรู้ได้ แต่ความรู้สึกนี้ไม่มีใครรู้เลย เป็นส่วนที่ยากที่สุด แต่พระพุทธเจ้ารู้ คือต้องฝึก จึงจะรู้ได้ด้วยตนเอง
          คนเรามักดูแลตัวเราแต่งตัวให้สวยงามได้ทุกวัน แล้วทำไมไม่เคยเหลียวแลใจเลย ปล่อยให้กำพร้าไม่มีที่พึ่ง มันอาจจะยากสักหน่อย แต่ถ้าเสื้อผ้า หน้าผมเราจับต้องดูแลได้ง่าย ส่วนใจจับต้องไม่ได้ ซึ่งเป็นของยากเพราะเห็นไม่ได้ แต่แบกรับความรู้สึกต่างๆ ที่ไม่ใช่เรื่องไว้เต็มๆ ระวัง "ความแก่" มันออกมาโชว์ที่ร่างกาย "ใจ" น่ะไม่แก่หรอก แต่"ใจที่เจ็บ" น่ะมันจะออกมาตรงไหนไม่รู้เลย รู้แต่มาทำร้ายเราแน่ๆ ดังนั้นต้องระวังๆ รักษาใจ ดูแลให้ดีๆ
          และในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด ขอแนะนำเคล็ดลับการป้องกันดูแลสุขภาพให้แข็งแรงพร้อมที่จะสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ ควรระวังเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพราะจะเป็นลมแดด(Heat Stroke) ได้ง่าย แนะนำให้ดื่มน้ำให้มาก และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ ควรมีพัดหรือร่มกันแดดติดตัวเพื่อเป็นการป้องกันความร้อนเบื้องต้น
          สาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดอาการลมแดด คือ ภาวะอากาศร้อนทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมความร้อนที่เพิ่มขึ้นทันทีทันใดได้ ตามปกติศูนย์ควบคุมอุณหภูมิทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิในร่างกกาย และมีความไวต่ออุณหภูมิเลือดที่ไหลผ่าน หากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้รับอันตรายเนื่องจากความร้อนจนทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ผลที่ตามมาคือทำให้เกิดลมแดดได้
          วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ การเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่สมอง โดยการยกเท้าสูง ลดอุณหภูมิของร่างกาย ด้วยการนำเข้าที่ร่ม ที่มีอากาศโปร่งสบาย คลายเสื้อผ้าให้หลวม ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น เช็ดตัวไปเรื่อยๆ หากไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้ดื่มน้ำโดยการจิบช้าๆ เป็นระยะจนหายกระหาย ให้พักต่อไปอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หากทำการปฐมพยาบาลแล้วไม่ฟื้นสตินานกว่า 5 นาที ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
                    พญ.สมสิริ สกลสัตยาทร
                    โรงพยาบาลสมิติเวช
                    โทร.0-2711-8181