HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 06/03/2555 ]
"ปู"เข้มสกัดยานรกเน้นขาสั้นคอซอง พ.ต.ท.ได้ประกัน

"ปู" กดปุ่มยุทธศาสตร์รวมพลังสู้ยาเสพติด ชูธงคุมเข้มระบาดในสถานศึกษาเน้นกลุ่มเป้าหมาย ป.6 ขณะที่ศาลสุราษฎร์ฯ ให้ประกันตัว พ.ต.ท.คดีค้ายาบ้า
          ยุทธศาสตร์ปการปราบปรามและป้องกันปัญหายาเสพติดระบาดนั้น เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 4 มีนาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม "รวมพลังคน D.A.R.E. สู้ภัยยาเสพติด" ที่สนามศุภชลาศัยโดยมีนักเรียนที่ผ่านการอบรม โครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน (Drug Abuse Resistance Education : D.A.R.E.) ครูตำรวจ D.A.R.E. ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ศิลปินดารา ตลกกว่า 1.5 หมื่นคน เข้าร่วมแสดงพลัง ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงไดเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการ D.A.R.E.
          โดยพิธีเปิดมีการเดินขบวนพาเหรดต่อต้านยาเสพติด มี ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์เป็นผู้เชิญธงนำขบวน จากนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำกล่าวคำปฎิญาณตนรวมพลังต่อต้านยาเสพติดแก่ผู้เข้าอบรม ใจความตอนหนึ่งระบุว่า "จะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไป พร้อมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งทางตรงและทางอ้อม"
          น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นนโยบายเร่งด่วนในปีแรก พร้อมชื่นชมสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สร้างผลงานในการปราบปรามยาเสพติด ทั้งนี้การใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดจะต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรมโดยรัฐบาลคาดหวังให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นการเชื่อมต่อกันของการปราบปราม การป้องกัน และการบำบัดผู้เสพ คืนคดีสู่สังคมไทยทั้งนี้นักเรียน เยาวชน ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแล
          "โครงการ D.A.R.E. เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด และกลยุทธ์ที่จะดำเนินการ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ของรัฐบาลเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดให้แก่ประชาชน เยาวชนทั่วไปและเยาวชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อปัญหายาเสพติด ตัดการเพิ่มของผู้เสพรายใหม่ เน้นเรื่องการให้ความสำคัญในการป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาทุกแห่ง ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือเด็กชั้นประถนศึกษาปีที่ 6" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
          จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้นำผู้เข้าร่วมงามปล่อยลูกโป่งเพื่อแสดงถึงการขยายโครงการ ก่อนร่วมร้องเพลงสามัคคีประเทศไทย นอกจากนี้ในงานมีขบวนพาเหรด นำโดยวงดุริยางค์ตำรวจ ขบวนนักเรียน จากตำรวจภูธรทั้ง 9 ภาค ขบวนดารานักร้องและมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้าร่วมงานแต่อย่างใด โดยมีรายงานข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมไปปฏิบัติราชการที่ จ.ลพบุรี
          พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ในสัมภาษณ์ว่า รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญในการป้องกันยาเสพติดให้หมดไป โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์สำคัญและกำหนดกลยุทธ์ที่จะดำเนินการ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ซึ่งในแผนที่ 3 เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดให้ประชาชน เยาวชนทั่วไป
          "งานนี้เป็นการบูรณาการของทุกภาคส่วน โดยมีหลายหน่วงงานเข้าร่วมงานอาทิ ตัวแทนกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร (กทม.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องยาเสพติด ที่จะทำให้ควบคุมปัญหาได้ในระยะยาว" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าว
          ต่อมานายอนุสรณ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเข้าร่วมกิจกรรม "รวมพลังงาน D.A.R.E. สู้ภัยยาเสพติด" ว่า โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของรัฐบาล ในการให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการกำหนดเป็นวาระแห่งชาติและเตรียมผลักดันต่อให้เป็นวาระแห่งภูมิภาคขอเรียนให้ทุกฝ่ายได้สบายใจว่า แม้รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่จะต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม
          นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ในพื้นที่สื่อบางส่วนอาจได้เห็นภาพการแก้ไขปัญหายาเสพติด เฉพาะด้านการปราบปราม ป้องกัน ที่ไปไกลถึงขั้นมีมาตรการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลดำเนินการควบคู่ไปด้วยอย่างเข้มข้น คือการบำบัดผู้เสพคืนคนดีสู่สังคมไทย โดยเน้นระบบสมัครใจเป็นหลัก 1 อำเภอ 1 ศูนย์ฟื้นฟู รองรับยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ซึ่งมีตัวเลขจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดภาคสมัครใจในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา สูงถึง 62,539 คน แบ่งเป็น ค่ายพลังแผ่นดิน (บำบัดในชุมชน) ทั่วประเทศ 30,119 คน บำบัดในสถานบำบัด สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 32,420 คน" นายอนุสรณ์กล่าว
          นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลการกร กล่าวว่า สัปดาห์หน้า ร.ต.อ.เฉลิมจะเดินทางมาประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ด่านศุลกากรในพื้นที่ให้การสนับสนุนและร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ในพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมดจุดที่มีความเสี่ยงมากที่สุดและมีสถิติการจับกุมคือ ด่านแม่สายที่ติดกับพม่า จึงกำชับให้มีการตรวจเข้ม 100% แทนการสุ่มตรวจ ด้วยการใช้เครื่องเอกซเรย์ทั้งในส่วนสินค้าและบุคคลเข้าออก ล่าสุดตรวจพบสารตั้งต้นในการผลิตยาไอซ์และยาบ้า ที่สำแดงว่าเป็นปุ๋ยส่งออกไปพม่าจึงได้จับกุมและส่งเรื่องไปให้ตำรวจเพื่อขยายผลต่อไป
          "ส่วนของการนำเข้ามีการเอกซเรย์สินค้าทุกรายการ แต่การลักลอบการนำเข้ายาเสพติดมักจะลักลอบตามตะเข็บชายแดน กรมจึงได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการนำรเอกซเรย์เคลื่อนที่ไปติดตั้งตามเส้นทางลำเลียงสินค้าลงภาคกลางที่ลูกพูน และลำปาง รวมทั้งจะเลือกไปติดตั้งที่ด่านสกัดของตำรวจทางหลวงโดยตรง เพื่อให้เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ไปตรวจรถต้องสงสัย หรือที่มีสายรายงานมา ซึ่งจะได้ผล 100% มากกว่าการตรวจค้นโดยตรง จะเป็นการช่วยสกัดยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือจากการเหนือลงไปแพร่ระบาดในภาคกลางได้" นายสมชายกล่าว
          นายสมชาย กล่าวอีกว่า เครื่องตรวจเคลื่อนที่นั้นจะย้ายมาจากด่านศุลกากรที่มีปริมาณสินค้าที่เข้าออกไม่มาก เช่น ลาดกระบัง และหนองคาย จึงสามารถเคลื่อนย้ายมาสนับสนุนภารกิจในการปราบปรามยาเสพติด ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาสามารถจับกุมเฉพาะสารตั้งต้นยาเสพติดประเภทซูโดเฟลามีนได้ 8-9 ล้านบาท
          ควาบคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ควบคุมตัว พ.ต.ท.สุชาติ เที่ยวธรรม สารวัตรปราบปราม สภ.กาญจนดิษฐ์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 1212555 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2555 ในความผิดฐานเป็นข้าราชการ (ตำรวจ) มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครองครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาติและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต และนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุชาติได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้หลักทรัพย์เป็นที่ดินของผู้ต้องหาและภรรยาในพื้นที่ ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่า 1.2 แสนบาท ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
          รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากผู้ต้องหาได้ประกันตัวไปแล้วเก็บตัวเงียบที่บ้านพักในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยญาติพยายามติดต่อทนายความเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
          วันเดี่ยวกัน พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.แม่สาย พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผกก.สส. สภ.แม่สาย นำกำลังกว่า 50 นาย เข้าตรวจยึดทรัพย์สินของทองดี ศรีวิชัย อายุ 44 ปี ชาว จ.เชียงราย ซึ่งเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ถูกตรวจแม่สายจับกุมได้ ขณะให้นายสุรเชษฐ์ ตาหลวงพนักงานขับรถ และนายจำรัส พรมปัญญา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบ่อนกาสิโนแห่งหนึ่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ใช้รถตู้ ทะเบียน นข 6364  เชียงราย ซึ่งเป็นรถใช้รับส่งนักพนันของกาสิโนแห่งหนึ่งขนยาบ้า 2 แสนเม็ด จากฝั่งท่าขี้เหล็กเข้ามายังฝั่งไทย ผ่านด่านพรมแดนแม่สายเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา
          เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์หลายรายการมีบ้านเลขที่ 262 หมู่ 2 ต.โป่งงาม อ.แม่สายซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว พร้อมที่ดินเนื้อที่ 200 ตารางวา 1 หลัง มูลค่า 4 ล้านบาท อาคารชั้นเดียวเลขที่ 176/1 หมู่ 1 ต.โป่งงาม เปิดเป็นฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ฟิตเนสมูลค่า 3 ล้านบาท และรถจักรยานยนต์ 1 คัน รถยนต์ 3 คัน มูลค่า 2 ล้านบาท สวนลิ้นจี่ 50 ไร่ มูลค่า 80 ล้านบาท โคพันธุ์ชาโรเลส์ 1 ฝูงใหญ่ มีทั้งพ่อแม่พันธุ์และโคขุนมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท การยึดทรัพย์ครั้งนี้รวมเป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท
          พ.ต.อ.ถนอนศักดิ์ กล่าวว่า เครือข่ายของนายทองดีเป็นเครือข่ายใหญ่ มีนายทุนใหญ่ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาเสพติดรายย่อยอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้ ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ประสานขอความร่วมมือ ป.ป.ส.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
 


pageview  1205119    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved