โรคกรดไหลย้อน เป็นความผิดปกติที่กรดจากกระเพาะอาหารหรือน้ำย่อยจากลำไส้เล็ก ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ผู้ป่วยจะมีอาการแสบยอดอก หรือมีเรอเปรี้ยวร่วมด้วย ในบางรายอาจมีความรู้สึกเหมือนมีกรดหรือน้ำย่อยรสเปรี้ยวหรือขมไหลย้อนขึ้นมาที่คอหรือที่ปากถ้าเป็นรุนแรงอาจทำให้เกิดหลอดอาหารอักเสบ แผลในหลอดอาหาร หลอดอาหารส่วนปลายตีบ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงจนถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้
สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน
- การที่กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายคลายตัว โดยไม่สัมพันธ์กับการกลืน ทำให้กรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหารสามารถไหลย้อนกลับขึ้นไปสู่บริเวณหลอดอาหารได้
- กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายมีความดันลดลงกว่าคนปกติ หรือเกิดมีการเลื่อนของกระเพาะอาหารเข้าไปในหลอดอาหาร ทำให้เพิ่มโอกาสการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารมากขึ้น
- เกิดจากความผิดปกติในการบีบตัวของกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหารเอง
- อาจมีปัจจัยทางพันธุกรรมเกี่ยวข้องด้วยอาการของโรคกรดไหลย้อน
ในปัจจุบันแบ่งอาการกรดไหลย้อนได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
1.อาการที่เกิดขึ้นกับกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ลามมาที่บริเวณหน้าอกหรือคอ มักเป็นมากขึ้นหลังทานอาหารมื้อหนัก อาการสำคัญอีกแบบหนึ่งคือเรอเปรี้ยว ผู้ป่วยจะรู้สึกว่ามีกรดซึ่งเป็นน้ำรสเปรี้ยวหรือขมไหลย้อนจากคอขึ้นมาในปากผู้ป่วยอาจมีอาการใดอาการหนึ่งหรือทั้ง 2 อาการอาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ เช่น ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรือกลืนลำบาก
2.อาการนอกหลอดอาหารแบ่งได้เป็นอาการตามระบบต่างๆ ดังนี้
2.1 อาการคล้ายโรคหัวใจผู้ป่วยจะเจ็บหรือแน่นหน้าอกรุนแรงแบบเดียวกับผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดกรณีนี้ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจอย่างละเอียดก่อนหากไม่พบความผิดปกติจึงค่อยตรวจหากรดไหลย้อน
2.2 อาการทางปอด อาจมีหอบหืด ไอเรื้อรัง ปอดอักเสบเรื้อรัง นอนกรนหรือหยุดหายใจขณะนอนหลับ
2.3 อาการทางหู คอ จมูก เช่น จุกแน่นในคอคล้ายมีอะไรติดหรือขวางอยู่บริเวณลำคอเจ็บคอเรื้อรัง เสมหะ ฟันผุ มีกลิ่นปากโดยหาสาเหตุไม่ได้การปฏิบัติตัวของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุราดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด อาหารไขมันสูง
- ระวังไม่ให้น้ำหนักตัวมากเกินไป - ควรรับประทานอาหารปริมาณน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง
- ไม่รับประทานอาหารมื้อเย็นในปริมาณมากและไม่ควรนอนทันทีหลังรับประทาน ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 ชั่วโมง - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ - นอนตะแคงซ้ายและนอนหนุนหัวเตียงให้สูง
โรงพยาบาลไทยนครินทร์
โทร.0-2361-2727