|
|
|
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 10/10/2556 ] |
|
|
|
|
ระวัง 3 โรคร้าย คุกคามหัวใจและหลอดเลือด(1) |
|
|
|
|
เนื่องจากชีวิตประจำวันของคนในสังคมไทยปัจจุบัน เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ตึงเครียด ไม่ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน พักผ่อนน้อย สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์จัด น้ำหนักตัวเกิน อ้วน ไม่ออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้คนไทยมีแนวโน้มป่วยด้วยโรคหัวใจมากขึ้นแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะ 3 โรคร้าย ที่คุกคามหัวใจและหลอดเลือดอย่างโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ และโรคหลอดเลือดแดงโป่งพอง
ในช่วงระยะ 10 ปี ที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 3 หมื่นคน คิดเป็นเฉลี่ยชั่วโมงละเกือบ 4 คน และมีแนวโน้มการเสียชีวิตด้วยโรคนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นสาเหตุของการตายอันดับต้นๆ ด้วยเหตุนี้เององค์การอนามัยโลก และองค์การยูเนสโก จึงได้กำหนดให้วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกันยายนของทุกปี เป็นวัน "หัวใจโลก" (World Heart Day) เพื่อกระตุ้นให้คนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคหัวใจ ซึ่งปีนี้ตรงกับ วันที่ 29 กันยายน 2556 โดยมีคำขวัญว่า "เลือกแนวทางการปฏิบัติตัวเพื่อหัวใจแข็งแรง"
ผู้ป่วยโรคหัวใจส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับปัจจัยเสี่ยง เช่น อายุที่มากขึ้น มีภาวะอ้วน ระดับไขมันที่มากเกินไปจนเกิดการสะสมและอุดตันบริเวณเส้นเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญไม่เพียงพอ สูบบุหรี่เป็นประจำ มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานและความดัน ไม่ชอบออกกำลังกาย เกิดความเครียดบ่อยครั้ง เป็นสัญญาณอันตรายที่ส่งผลต่อชีวิต โดยความผิดปกติที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ตลอดจนปัจจัยทางพันธุกรรม ที่เป็นตัวเร่งทำให้กลายเป็นโรคหัวใจในอนาคต
วิธีสังเกตอาการโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะมีอาการเบื้องต้น คือ หัวใจเต้นเร็วหรือช้ากว่าปกติ ทำให้ใจสั่น หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย ไม่มีแรง หมดสติ อาการที่เกิด กับผู้ป่วยอาจทำให้เกิดความวิตกกังวล หรือกลัวจนไม่สามารถ ทำกิจวัตรประจำวันได้
โดยปกติคนเราจะมีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 60-100 ครั้งต่อนาที ถ้านอนพักผ่อนสบายๆ มีอัตราการเต้น 60 ครั้งต่อนาทีหรือต่ำกว่า อัตราชีพจรอาจเพิ่มขึ้นได้ถ้าร่างกายมีความ ต้องการเพิ่มขึ้น เช่น ทำงานบ้าน ตื่นเต้น หลังรับประทาน อาหาร เป็นต้น
ถ้าออกวิ่งเร็ว ๆ อัตราการเต้นหัวใจสูงถึง 140 ครั้งต่อนาที ฯลฯ ซึ่งแตกต่างกันไปตามอายุ และความหนักเบาของการทำงาน หรือการออกกำลังกายในขณะใดขณะหนึ่ง อย่างไรก็ตามถ้านั่งอยู่ดีๆ หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาทันทีจาก 80 ครั้งต่อนาที เป็น 160 ครั้งต่อนาที แสดงว่าเสี่ยงต่อภาวะหัวใจที่เต้นผิดปกติ ซึ่งอาจอันตราย ถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิต
ส่วนผู้ป่วยที่ไม่มีอาการขณะตรวจอาจไม่พบความผิดปกติ ในกรณีเช่นนี้ แพทย์จะใช้การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบติดเทปบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามอาการหรือใช้เครื่องบันทึกคลื่นหัวใจชั่วคราวชนิดพกพา ผู้ป่วยสามารถพกพาเครื่องดังกล่าวในการดำเนินชีวิตตามปกติ ถ้าหัวใจเกิดอาการเต้นผิดปกติ ก็นำเครื่องมาแนบที่อก เครื่องจะบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจไว้เพื่อนำไปให้แพทย์วิเคราะห์คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งจะช่วยวินิจฉัยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะได้แม่นยำขึ้น
ในบางกรณีที่มีอาการน้อยครั้งแต่รุนแรงอาจทำการตรวจวิเคราะห์โดยฝังเครื่องบันทึกการทำงานหัวใจ ซึ่งจะบอกได้ดีขึ้น ในผู้ป่วยที่มีอาการอยู่อีกและหาสาเหตุอื่นไม่พบ อาจทำการตรวจสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ โดยการใส่สวนหัวใจ เพื่อทำการตรวจบันทึกคลื่นไฟฟ้าภายในหัวใจและกระตุ้นให้มีอาการ ก็จะสามารถวินิจฉัยได้แน่นอนขึ้น
วิ่ง ปั่น การกุศล ช่วยเด็กโรคหัวใจและมะเร็ง
วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 ณ สมิติเวช ศรีนครินทร์
เสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ พบกับการรวมพลของนักวิ่งและนักปั่นจักรยานครั้งยิ่งใหญ่ใน "Run & Ride for Childrens Chance" ที่ สมิติเวช ศรีนครินทร์ ร่วมกับ เครือข่ายนักวิ่งใจเกินร้อย Endomondo Thailand และกลุ่ม Thai Cycling จัดวิ่งและปั่นจักรยานการกุศล นำรายได้เข้ากองทุน New Life ของสมิติเวช เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจ และผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งในเม็ดเลือดที่ต้องรับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก ที่ยังขาดโอกาสการรักษาอยู่ในขณะนี้ต่อไป
นักวิ่ง นักปั่น และ ประชาชนทั่วไปที่สนใจสมัครร่วมกิจกรรมได้ที่ www.BibMaster.com หรือดูข้อมูลได้ที่Facebook KidsHospital หรือโทร.0-2378-9000
ผู้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้จะได้รับเสื้อ T-Shirt "Real & Ride forChildrensChance"พร้อมของที่ระลึกแบบLimited edition Thumb Drive รูปหมีชุดนักกีฬา |
| | |
|
| |
|
pageview 1205887 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |