เมื่อวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ไลฟ์สไตล์ แสงแดด และมลภาวะล้วนเอื้อให้สภาพผิวและเซลล์ในร่างกายของคนเราเสื่อมสภาพลงก่อนวัยอันควร แล้วจะมีวิธีใดบ้างที่ช่วยรักษาผิวพรรณให้อ่อนเยาว์นานเท่านาน
          เกี่ยวกับเรื่องนี้ พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ให้ความรู้ว่า เพื่อสุขภาพผิวที่ดีที่สุด คนทั่วไปควรเรียนรู้ว่าอะไรดีต่อผิว ไม่ดีต่อผิวและควรหลีกเลี่ยง อีกทั้งควรสร้างสุขภาพผิวพรรณที่ดีจากภายในสู่ภายนอกเพื่อความงามที่ยั่งยืน โดยสามารถดูแลผิวและเซลล์ในร่างกายของตัวเองผ่านการรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี และเสริมกลุ่มวิตามิน
          "ต้องบอกว่าวิธีการลดน้ำหนักที่ดีหรือ  บาลานซ์ไดเอต ควรมีสัดส่วนในการกินต่อจานอยู่ที่ ผักผลไม้ครึ่งหนึ่งของจาน และ 1 ใน 4 ควรเป็นธัญพืชไม่ขัดสีอย่างข้าวกล้องหรือโฮลเกรน ที่เหลืออีก 1 ส่วน ควรเป็นโปรตีนดีอย่างเนื้อปลา เนื้อไก่ และเต้าหู้ อย่างไรก็ดี อาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริงก็คือ ปลา ผัก ผลไม้ เครื่องเทศ และถั่วอบรสธรรมชาติ อย่างวอลนัท และอัลมอนด์ นอกจากนี้ ควรพยายามคิดก่อนกินว่าเป็นอาหารมีวิตามิน มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีแคลอรีเยอะหรือไม่ อยากให้เน้นกินเพื่อประโยชน์มากกว่าให้โทษแก่ร่างกาย" พญ.ธิดากานต์ กล่าว
          ส่วนเรื่องการรับประทานวิตามินให้ถูกวิธีและปลอยภัยกับชีวิตในระยะยาว พญ.ธิดากานต์ อธิบายว่า วัยเด็ก วัยรุ่น หรือคนช่วงวัยก่อน 30 ปี ไม่มีความจำเป็นต้องกินวิตามินหรือกลุ่มอาหารเสริม นอกจากคนที่มีปัญหาสุขภาพ เจ็บป่วยเรื้อรัง และกินอาหารเฉพาะอย่าง ที่มีแนวโน้มขาดวิตามินบางตัวได้  แต่พออายุเกิน 50 ปี ควรกินกลุ่มวิตามินรวม วิตามินดี แต่การซื้อวิตามินกินเองทุกครั้งจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ หรือตรวจเลือดให้รู้แน่ชัดว่าร่างกายขาดวิตามินตัวใด และไม่ควรเกินปริมาณที่มีการวิจัยกันว่าสามารถกินในระยะยาวที่มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง