HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 01/10/2556 ]
"อวัยวะ"คุณ...ต่อชีวิตได้อีกหลายคน

 การบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรคอวัยวะวายเช่น ตับ หัวใจ หรือปอดวาย หากไม่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะผู้ป่วยจะเสียชีวิตแน่นอน นั่นเองจึงเหตุให้หลากหลายหน่วยงานร่วมรณรงค์การรับรู้การบริจาคอวัยวะ ซึ่งเมื่อวันก่อนกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ บริเวณลานกิจกรรมหน้าห้างสรรพสินค้า เอ็น บี เค เซ็นเตอร์
          นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า จากสถิติของสภากาชาดไทยในปี 2555 พบว่ามีผู้รอรับบริจาคอวัยวะประมาณ 3,516 คน ในขณะที่มีผู้บริจาคอวัยวะเพียง 136 คน สามารถนำอวัยวะไปปลูกถ่ายช่วยเหลือผู้ป่วยได้ 334 คน โดยการปลูกถ่ายไตมากที่สุด 246 คน ซึ่งภาพรวมคิดเป็นสัดส่วนผู้บริจาค 2 คนต่อประชากร 1 ล้านคนเท่านั้น สัดส่วนที่ไม่สมดุลกันนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากไม่สามารถรอได้ถึง 3 คนต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ ผู้บริจาค 1 คน จะสามารถนำอวัยวะไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยคนอื่นๆ ได้อย่างน้อย 7 คนให้มีชีวิตรอดและได้มีชีวิตใหม่ที่สมบูรณ์ใกล้เคียงคนปกติ
          "อุปสรรคสำคัญที่ทำให้การบริจาคอวัยวะในประเทศ ไทยน้อยเป็นเพราะประชาชนส่วนใหญ่ขาดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสภาวะสมองตาย ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าผู้มีภาวะสมองตายเป็นผู้เสียชีวิตแล้ว ผู้ป่วยจะไม่มีความรู้สึก สมองไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้อีก รวมทั้งครอบครัวของผู้ป่วยที่อยู่ในสภาวะสมองตายส่วนมากยังคาดหวังว่าจะมีปฏิหาริย์ที่ผู้ป่วยจะฟื้นคืนชีวิตมา หรือทำใจไม่ได้จึงไม่ยอมบริจาค นอกจากนี้คนไทยยังเชื่อว่าการบริจาคอวัยวะจะ ทำให้ผู้เสียชีวิตมีอวัยวะไม่ครบ 32 เมื่อเกิดใหม่ในชาติหน้า ทั้งที่การบริจาคอวัยวะในทางพระพุทธศาสนาถือเป็นทานบารมีที่ยิ่งใหญ่เหนือการบริจาคทานด้วยทรัพย์สินใดๆ" รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้ความรู้ ใ     ด้าน มิรันตี วันหวัง อายุ 18 ปี ผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเล่าให้ฟังว่า ตอนอายุ 13 ปี อยู่ๆ ก็เป็นโรคหัวใจโตอาการเฉียบพลัน ต้องนอนอยู่โรง
          พยาบาลตลอด ซึ่งคุณหมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง 3 เดือน ระหว่างนั้นก็ได้มีการรักษาในรูปแบบการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไขกระดูกตัวเอง จนอยู่มาได้ถึงอายุ 15 ปี แต่ก็ไม่ได้หายขาด สุดท้ายก็ทรุดหนัก ไม่มีเรี่ยวแรง ปากเป็นสีม่วง ตัวสีม่วง คุณหมอบอกทางบ้านให้ทำใจได้เลย เพราะไม่รอดแน่ ตอนนั้นเสียใจมาก กลัวมาก ซึ่งทางบ้านก็ไม่มีเงินจึงทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาไปทางสำนักพระราชวัง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รับไว้ในพระราชานุเคราะห์ จากนั้นจึงดำเนินการขอทำเรื่องปลูกถ่ายอวัยวะเพราะมีเงินรักษาแล้ว
          "เหมือนปาฏิหาริย์ตาย แล้วได้เกิดใหม่ เพราะตอนนั้นทางครอบครัว พ่อแม่ถอดใจแล้ว นอนรอความตายแล้ว แต่เมื่อขอทำเรื่องปลูกถ่ายอวัยวะจากนั้นเพียง 2 สัปดาห์ก็ได้หัวใจจาก ผู้บริจาค ดวงดีมากๆ ทั้งๆ ที่มีมีผู้ป่วยรอคอยหลายคน ซึ่งหมอก็ดำเนินการตามขั้นตอนคือต้องเปลี่ยนให้แก่ผู้ป่วยหนักก่อน จวบจนวันนี้อายุจะ 19 ปีในอีกไม่กี่วัน มีชีวิตปกติ ได้เรียนหนังสือ ได้ทำงานตอบแทนพระคุณพ่อแม่ พระคุณแผ่นดิน และได้ใช้ชีวิตเหมือนปกติทุกอย่าง เพียงแต่ต้องไปหาหมอตรวจตามนัดและหลีกเลี่ยงเชื้อโรคต่างๆ เพราะมีภูมิต้านทานน้อยกว่าคนอื่น ชีวิตหนูเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ" มิรันตี เล่าด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข    สำหรับผู้สนใจจะบริจาคอวัยวะสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพราะอวัยวะของคุณมีค่าต่อชีวิตผู้ป่วยได้ถึง 7 คนทีเดียวค่ะ


pageview  1205307    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved