"หมอประดิษฐ" เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบองค์การเภสัชฯ บรรจุยา 2 ชนิดใช้รักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและยารักษาโรคความดันโลหิตใส่ในแผงเดียวกัน เภสัชกร มข.แนะสังเกตยาก่อนกิน และให้รีบกลับไปถามแพทย์ที่จ่ายยาให้เพื่อความแน่ใจ
          จากกรณีองค์การเภสัชกรรม (อภ.) บรรจุยาผิด โดยบรรจุยาไอโซซอร์ไบด์ ไดไนเตรต (Isosorbide dinitrate) ขนาด 10 มิลลิกรัม กับยาแอมโลดิปีน (Amlodipine) ขนาด 5 มิลลิกรัม สลับกัน โดยมีการกระจายไปยังโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) 7 แห่ง และเริ่มพบผิดสังเกตที่โรงพยาบาลมะการักษ์ จ.กาญจนบุรี โดยกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งหยุดผลิต หยุดจ่ายยา และเรียกคืนยานั้น
          ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 กันยายน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันที่ 9 กันยายนนี้ อภ.จะมีการแถลงข่าวถึงปัญหาที่มีการบรรจุยาไอโซซอร์ไบด์ ไดไนเตรต เป็นยาขยายหลอดเลือดใช้รักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และยาแอมโลดิปีน ซึ่งเป็นยาลดความดันโลหิต ปนอยู่ในแผงเดียวกัน ส่วนการแก้ปัญหาระยะสั้นจะต้องมีการสืบหาสาเหตุก่อน สิ่งที่ทำไปแล้วคือ เรียกยาคืนจากทุกโรงพยาบาลและติดตามคนไข้ทุกคนที่ได้รับยาไป โดยได้รับรายงานว่า มีโรงพยาบาลแค่ 1-2 แห่ง ที่จ่ายยาไปแล้ว อีก 6-7 แห่ง ยังไม่ได้จ่ายยาไป ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีเพียงหลักร้อยเม็ดเท่านั้น และยาทั้ง 2 กลุ่มนี้เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิตเหมือนกัน ซึ่งพบว่าคนไข้ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด
          นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า ความผิดพลาดในการบรรจุยา 2 ชนิดใส่ในแผงเดียวกัน ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุความผิดพลาดว่าเกิดจากอะไรในกระบวนการผลิต โดยให้ตัวแทนของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อภ. ร่วมเป็นกรรมการสอบด้วย เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลการทำงาน ถ้ามีจำนวนมากก็อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจำนวนยาว่าจำนวนที่แท้จริงเท่าใด
          "ยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจทำให้ อภ.ขาดความเชื่อถือจากประชาชน เป็นหน้าที่ของทีมงาน อภ.ที่จะต้องเรียกความเชื่อถือจากประชาชนกลับมา ส่วนกระบวนการตรวจสอบการผลิตนั้นจะต้องทำด้วยความโปร่งใส จึงได้ดึงสหภาพแรงงานของ อภ. ซึ่งเป็นส่วนผู้ปฏิบัติงานเข้ามาร่วมในคณะกรรมการด้วย" นพ.ประดิษฐ กล่าว
          ภญ.นุศราพร เกษสมบูรณ์ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ยาทั้งสองชนิดเป็นยาในกลุ่มหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อควรระวังในบางกรณี เช่น กรณีที่ผู้ป่วยควรจะได้รับยา แอมโลดิปีน 5 มิลลิกรัม แต่ได้รับยาไอโซซอร์ไบด์ ไดไนเตรต 10 มิลลิกรัม แทน อาจทำให้การควบคุมความดันเลือดของผู้ป่วยไม่เป็นไปตามเป้าหมายการรักษา เนื่องจากกลไกการออกฤทธิ์ของยาและขนาดยาที่ใช้มีความแตกต่างกัน ในกรณีนี้แนะนำให้ผู้ป่วยทุกรายที่ได้รับยาแอมโลดิปีน 5 มิลลิกรัม ที่ผลิตโดย อภ.ควรนำแผงยาที่ได้รับกลับไปยังสถานบริการที่จ่ายยาให้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หรือนำไปปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้าน
          ภญ.นุศราพร กล่าวอีกว่า ยาเม็ดแอมโลดิปีน 5 มิลลิกรัม มีข้อบ่งใช้สำหรับ 1.รักษาโรคหัวใจขาดเลือด โดยการขยายหลอดเลือดหัวใจ เพื่อเพิ่มเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ 2.ลดความดันเลือด 3.ใช้รักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิด ส่วนยาไอโซซอร์ไบด์ ไดไนเตรต 10 มิลลิกรัม เป็นยาโรคหัวใจ ซึ่งถือเป็นโรคเรื้อรัง ต้องจ่ายยาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยปกติผู้ป่วยจะต้องได้รับยานี้เป็นประจำ ซึ่งหลักการทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยควรจะต้องสังเกตยาก่อนรับประทานว่า ยาที่แพทย์จ่ายให้นั้นเป็นยาตัวเดิมที่เคยรับประทานหรือไม่ เพราะหากแพทย์มีการเปลี่ยนยาหรือเปลี่ยนยี่ห้อจะต้องบอกผู้ป่วยทุกครั้ง หากพบว่ายาที่แพทย์จ่ายไม่ใช่ยาตัวเดิมและไม่ได้มีการบอกกล่าวว่าจะเปลี่ยนยานั้น ข้อให้ตั้งข้อสงสัยและนำยากลับไปสอบถามให้แน่ชัด