สลด สาวเฟรชชี่ มข.ป่วยไข้เลือดออก เสียชีวิต หมอระบุเป็นเชื้อชนิดรุนแรงพบได้น้อย ด้าน สสจ.เปิดวอร์รูมติดตามการระบาด
          นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดัง เสียชีวิตจากไข้เลือดออกชนิดรุนแรง เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก เข้ารักษาที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เสียชีวิตเมื่อเวลา 08.30 น. วันเดียวกัน เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาล ทราบชื่อผู้ป่วยเสียชีวิต คือ น.ส.นนฑีฐิยา ภูวนนท์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 394/46 หมู่ 2 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
          รศ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า น.ส.นนฑีฐิยา เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่  9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แพทย์เจ้าของไข้ระบุว่าผู้ป่วยมีไข้สูงปวดท้อง จนกระทั่งวันที่ 11
          กรกฎาคม แพทย์ได้ย้ายผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู หลังจากพบว่าผู้ป่วยมีอาการช็อก เลือดออกมาก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อวัยวะภายใน เช่น ไต ตับ และหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบ แพทย์ต้องใช้เครื่องปั๊มหัวใจถึง 2 ครั้ง
          "ถือว่าเป็นเชื้อไข้เลือดออกชนิดรุนแรงที่พบไม่บ่อยนัก ตอนนี้สืบหาสาเหตุว่านักศึกษาติดไข้เลือดออกจากแหล่งใด เบื้องต้นทราบว่ามีที่พัก 2 แห่ง คือ ที่บ้านและที่หอพัก ในส่วนของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ตรวจพบเชื้อไข้เลือดออก และเจ้าหน้าที่ได้ฉีดพ่นควันเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลายแล้ว" รศ.ชาญชัย กล่าว
          ด้าน นพ.คิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น (สสจ.ขอนแก่น) กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของไข้เลือดออกในปีนี้พบว่าสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วถึง 3 เท่า จากสถิติที่รวบรวมไว้ตั้งแต่มกราคมถึงปัจจุบัน พบมียอดผู้ป่วยสะสมแล้ว 1,061 ราย ส่วนสาเหตุที่ปีนี้ไข้เลือดออกระบาดมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ สภาพอากาศที่มีความเหมาะสมทำให้ยุงลายแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว
          "ได้กำชับทุกฝ่ายเฝ้าติดตามใกล้ชิดและตั้งวอร์รูมรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดทุกอาทิตย์ หากมีความรุนแรงในพื้นที่จะส่งทีมสืบสวนโรคเพื่อป้องกันทันที ที่ผ่านมายังไม่พบมีผู้เสียชีวิต สำหรับ น.ส.นนฑีฐิยา นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นรายแรกในจังหวัด" สสจ.ขอนแก่น กล่าว
          วันเดียวกัน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการควบคุมโรคไข้เลือดออกที่กำลังระบาดว่า จะทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงจังหวัดที่มียอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสูง เช่น กรุงเทพมหานคร สงขลา เชียงใหม่ เชียงราย และนครราชสีมา เป็นต้น ขอความร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรค รวมทั้งผลการสำรวจและกำจัดลูกน้ำยุงลายในสถานที่ต่างๆ ด้วย เพื่อช่วยกระตุ้นการดูแลเรื่องแหล่งแพร่พันธุ์ยุงลายให้ได้ผล ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน เนื่องจากตัวยุงและแหล่งแพร่พันธุ์กว่าร้อยละ 80 อยู่ในบ้าน สถานที่สาธารณะ
          ทั้งนี้ ในส่วนโรงเรียนและโรงพยาบาลต้องไม่มีลูกน้ำยุงลาย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้เด็กนักเรียน และป้องกันไม่ให้โรงพยาบาลเป็นแหล่งแพร่เชื้อไข้เลือดออก โดยได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัดร่วมกับศูนย์วิชาการกรมอนามัย ติดตามผลการทำลายลูกน้ำยุงลายในโรงพยาบาลและโรงเรียน
          รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออก กระทรวงสาธารณสุข ที่ติดตามทุกพื้นที่ทุกสัปดาห์ พบว่าจำนวนผู้ป่วยยังไม่ลด ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ช่วงวันที่ 3-9 กรกฎาคม พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นรวม 8,571 ราย สูงกว่าช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ประมาณร้อยละ 30 ส่วนใหญ่พบในอายุ 15-24 ปี 2,410 ราย อายุ 10-14 ปี 1,902 ราย โดยพบผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปป่วยประมาณ 600 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่มกราคม-9 กรกฎาคม รวม 67,889 ราย เสียชีวิต 71 ราย และจากผลสำรวจภาชนะขังน้ำในบ้าน โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ พบมีลูกน้ำยุงลายมากกว่าร้อยละ 10 ของภาชนะทั้งหมด สะท้อนว่ายุงลายยังมีจำนวนมากและเป็นตัวการแพร่เชื้อต่อเนื่อง
          ขณะที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จังหวัดที่มีจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาและเพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้มากที่สุด 10 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ยอดป่วย 3,875 เพิ่ม 1,156 ราย รองลงมาคืออุบลราชธานี ป่วย 1,928 เพิ่มขึ้น 824 ราย เชียงราย ป่วย 3,456 ราย เพิ่ม 564 ราย กทม.ป่วย 5,041 ราย เพิ่ม 534 ราย นครราชสีมา ป่วย 2,893 ราย เพิ่ม 477 ราย ศรีสะเกษ ป่วย 2,235 ราย เพิ่ม 440 ราย เพชรบูรณ์ ป่วย 2,124 ราย เพิ่ม 374 ราย สงขลา ป่วย 4,292 ราย เพิ่มขึ้น 275 ราย ร้อยเอ็ด ป่วย 1,812 ราย เพิ่มขึ้น 248 ราย และลำปาง ป่วย 969 ราย เพิ่มขึ้น 240 ราย
          ส่วนแนวทางการรักษาผู้ป่วย เพื่อป้องกันและลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งจัดจุดตรวจดูแลไข้เลือดออก หรือเดงกีคอร์นเนอร์ (Dengue Corner) สำหรับกลุ่มผู้ป่วยข่ายสงสัย และได้ทำแนวทางการดูแล 3 ส่วน ได้แก่ 1.การดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออก ที่เป็นผู้ป่วยนอก 2.การส่งต่อผู้ป่วยไข้เลือดออกไปโรงพยาบาลใหญ่ และ3.การดูแลรักษา ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ และเปิดสายด่วนปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง หมายเลข 08-9204-2255 ด้วย