นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งมีประโยชน์ต่อทั้งแม่และทารก ทั้งทางร่างกายและจิตใจ สารอาหารและภูมิต้านทานต่างๆ จะถูกส่งผ่านไปยังทารก ในระหว่างการให้ลูกกินนมแม่ฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพันจะหลั่งออกมา สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกให้แนบแน่นมากขึ้น ในระยะให้นมลูกแม่ต้องการพลังงานและสารอาหารเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องได้รับสารอาหารให้เพียงพออย่างมีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมารับประทาน เพราะอาจเป็นเหยื่อของการโฆษณาเกินจริง ขอแนะนำให้บริโภคผักที่ช่วยให้น้ำนมของแม่เพิ่มขึ้นและหาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น หัวปลี ใบกะเพรา ใบโหระพา เมล็ดขนุนต้ม พริกไทย ขิง ฟักทอง มะรุม ใบแมงลัก กุยช่าย ตำลึง มะละกอ พุทรา รวมทั้งใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นน้ำนม เช่น แปะตำปึง อาจนำมาทำเมนู เช่น แกงเลียงหัวปลี และยำหัวปลี เป็นต้น
          ด้านนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เนื่องจากในระยะ 6 เดือนแรกทารกจะได้รับนมแม่เป็นอาหารหลัก การสร้างน้ำนมจะยังคงอยู่เนื่องจากถูกกระตุ้นจากการดูดของลูก การเจริญเติบโตของทารกจึงขึ้นอยู่กับปริมาณและคุณภาพของน้ำนม ถ้าน้ำนมไม่ถูกดูดหรือปั๊มจนเกลี้ยงเต้าอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง การที่น้ำนมเกลี้ยงเต้าอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้น วิธีที่ดีที่สุดในการกระตุ้นน้ำนม คือการดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดให้ถูกวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 วันแรกหลังทารกเกิด แม่ควรผ่อนคลายไม่เครียด และจำเป็นต้องได้รับสารอาหารให้เพียงพอเหมาะสมและหลากหลายด้วย