HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 23/03/2555 ]
ไล่ออกทันทีแก๊งรตท.อมยาบ้า3แสนเม็ดไอซ์อีก5กก.ยึดล้านเม็ดซุกที่ปทุมฯ พิษ'ซูโด'รพ.เชียงใหม่จ่อเชือดวินัยเภสัชกร

  สธ.เตรียมฟันเภสัชฯ ร.พ.ดอยหล่อเชียงใหม่ สั่งยาซูโดฯ เกินจริง พร้อมให้ช่วยราชการส่วนกลาง ส่วน 3 จังหวัดใต้ พบ 1 แห่ง ใบสั่งยาไม่ตรงยอดจริงให้สอบเพิ่มแล้ว สภาเภสัชฯ เตรียมถอนใบประกอบวิชาชีพเภสัชฯร.พ.ยาหายแล้ว บช.น.ร่วมปส. จับแก๊งร.ต.ท. คากองสืบบก.น. 3 อมยาบ้าของกลาง 3 แสนเม็ด ไอซ์อีก 5 ก.ก. สั่งออกจากราชการทันที พร้อมดำเนินคดีเด็ดขาดสสจ.อุตรดิตถ์ เสนอสอบวินัยผอ.ร.พทองแสงขัน นครศรีฯ เดือด รัวเอ็ม 16 ดับไอ้เมี้ยบพรหมโลก คากระบะคู่ใจ เชื่อหักปมค้ายา
          เมื่อวันที่21 มี.ค. น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงโรงพยาบาลที่พบความผิดปกติเกี่ยวกับการสั่งซื้อ-เบิกจ่ายยาซูโดอีเฟดรีน ว่าการรายงานผลการสอบสวนเพิ่มเติมโรงพยาบาลดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ผ่านอีเมล์ สรุปว่าพบเภสัชกรที่ควบคุมสต๊อกยาของโรงพยาบาลมีความผิดคนเดียว เนื่องจากรายการยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนที่โรงพยาบาลสั่งซื้อน้อยกว่าที่บริษัทจัดส่งมาให้ โดยเภสัชกรคนดังกล่าวสั่งมาส่วนตัว ซึ่งผอ.โรงพยาบาล สังเกตเห็นความผิดปกติจึงสั่งให้งดใช้ยาตัวนี้ระยะหนึ่งส่วนการดำเนินการอย่างไรต้องรอผลอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงระดับจังหวัด หากกรรมการยืนยันผลสอบ จะต้องย้ายเภสัชกรคนดังกล่าวมาช่วยราชการส่วนกลางเพื่อให้การสอบสวนทางวินัยและอาญาเป็นไปด้วยความสะดวกในส่วนของร.พ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจสอบ เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)เพิ่งรายงานความผิดปกติเมื่อวันที่16 มี.ค.ที่ผ่านมา ต้องให้เวลาจังหวัดตรวจสอบประมาณ 2 สัปดาห์
          น.พ.ไพจิตร์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ดีเอสไอระบุว่า โรงพยาบาลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สั่งซื้อยาซูโดฯ ในลักษณะผิดปกตินั้นจากการตรวจสอบของ อย. พบว่ามีเพียง 1 โรงพยาบาลที่มีการสั่งซื้อยาเข้าข่ายผิดปกติ เนื่องจากที่โรงพยาบาลสั่งซื้อกับรายการยาที่บริษัทส่งให้ไม่ตรงกัน ซึ่งยังต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง
          ภ.ญ.ธิดา นิงสานนท์ นายกสภาเภสัชกรรมกล่าวว่า กรรมการสภาเภสัชกรรม ประชุมและสรุปว่า เภสัชกรทั้ง 3 รายคือ เภสัชกร ร.พ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ และโรงพยาบาลอุดรธานี มีความผิดชัดเจน หากอนุกรรมการจรรยาบรรณสภาเภสัชฯ พิจารณาว่ามีความผิดจริง จะลงโทษขั้นสูงสุดคือเพิกถอนใบอนุญาตเภสัชกรทั้ง 3 รายทันที และหากมีการแอบลักลอบนำยากลุ่มนี้ออกไปอีก หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมแต่ละโรงพยาบาลจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ และหากหัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตด้วยเช่นกัน
          ที่กระทรวงมหาดไทย นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยว่า กระทรวงจะจัดโครงการ "คนมหาดไทย ปลอดยาเสพติด" โดยสั่งให้ผู้ว่าฯ ทำสถิติข้อมูลข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัด ที่ถูกดำเนินคดีอาญาหรือดำเนินการทางวินัยเกี่ยวกับยาเสพติดย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปี 52-54 เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการต่อไป
          สำหรับการลักลอบนำยาหวัดสูตรซูโดฯออกจากสถานพยาบาลและร้านขายยานั้น เชื่อว่าดำเนินการมานานแล้ว เนื่องจากการจับกุมได้เฉพาะในช่วงตั้งแต่ปี 2551-2554 มากถึง 44.4 ล้านเม็ด โดยพบความผิดปกติมากแห่งในสถานพยาบาลที่อยู่ในภาคเหนือและอีสาน ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ อย. มอบให้ดีเอสไอเชื่อว่ามียาหวัดอีกจำนวนมากกว่านี้หลายเท่า ตัวที่ถูกลักลอบนำออกจากสถานพยาบาล เพื่อนำใช้สกัดเป็นสารตั้งต้นเพื่อผลิตยาเสพติด
          เมื่อเวลา10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสองผบช.น. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) แถลงจับกุม ร.ต.ท.เชิงชอบ ราชคม รอง สว.สส.กก.สส.บก.น.3 ด.ต.สมศักดิ์ ทิพย์รัศมีวงศ์ ผบ.หมู่งานป.สน.ประชาสำราญ จ.ส.ต.ภัทระ วรชาณันช์  ผบ.หมู่ สน.จรเข้น้อย ส.ต.ท.นพดลพันธุ์อารีย์ ผบ.หมู่ กก.สส.บก.น.3 และนายชวลิต กำเนิดขอนแก่น พร้อมยาบ้า 305,200 เม็ด ยาไอซ์ 5 ถุง หนัก 5 กิโลกรัม รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน ญจ 8571 กทม. รถเก๋งโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ฉข 8540 กทม. รถเก๋งโตโยต้า สีเทา ทะเบียน วท5264 กทม.และโทรศัพท์มือถือ 10 เครื่องโดยจับกุมเมื่อวันที่ 20 มี.ค. เวลาประมาณ 01.00 น. ที่ กก.สส.บก.น.3 แขวง-เขตมีนบุรี กทม.
          พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากตำรวจ บช.น.สืบสวนพบว่า ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 ดำเนินการโดยมิชอบโดยร่วมกันตรวจยึดยาเสพติด แต่ไม่นำไปดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. เข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ก่อนไปตรวจสอบพบยาเสพติดของกลางที่รถของผู้ต้องหา จึงดำเนินคดีกับทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นตำรวจ 4 คน และพลเรือน 1 คนในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี
          สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของยาเสพติดมีประมาณ 4-5 คน และรู้กลุ่มขบวนการแล้วอยู่ระหว่างขยายผลเพื่อติดตามจับกุมต่อไปและสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นาย เบื้องต้นสั่งการให้ บก.น.3 ต้นสังกัดทำเรื่องให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
          รายงานข่าวแจ้งว่า ยาเสพติดล็อตดังกล่าวนำเข้าจากทางภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจบช.ปส. ก็เตรียมการเข้าจับกุมเช่นกัน แต่ชุดร.ต.ท.เชิงชอบกับพวกซึ่งมาช่วยงานยาเสพติดที่กก.สส.บก.น.3 เข้าจับกุมก่อน แต่หลายชั่วโมงต่อมา ก็ยังไม่พบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและของกลางถูกดำเนินคดี บช.ปส.จึงประสาน บช.น.นำกำลังเข้าตรวจสอบก่อนจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ กก.สส.บก.น.3 ทั้งนี้จะตรวจสอบถึงผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหาทั้งหมดว่าเข้าข่ายบกพร่องตามระเบียบ ตร. ข้อ 1212 หรือไม่
          วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด เป็นโจทก์ฟ้องนายเหล่าต้า แซ่หยาง อายุ35 ปี ชาวจีนฮ่อ ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ หรือยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฟ้องโจทก์เมื่อวันที่22 ต.ค.53 สืบเนื่องจากระหว่างวันที่16-31 ก.ค.53 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่อซื้อยาไอซ์จากจำเลยกับพวกหนัก 20 ก.ก. ราคาประมาณ 18 ล้านบาท โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคแรก และวรรคสาม(2), มาตรา66 วรรคสาม ประกอบมาตรา 83 ให้ประหารชีวิต และฐานมีวัตถุระเบิด จำคุก 6 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยตลอดชีวิต
          ที่จ.ปทุมธานี เวลา 17.30 น. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมิทธิมุกดาสนิท ผบก.ภจว.ปทุมธานี นำกำลังร่วมกับสืบสวนนครบาล 5 ร่วมกันตรวจค้นบ้านทาวน์เฮาส์คู่ เลขที่ 29/409-140 หมู่บ้านศุภาลักษณ์หมู่ที่ 14 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากการตรวจค้นพบยาเสพติดประเภทยาบ้า 510 มัด1,020,000 เม็ด และยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีขาว หนัก 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ยังพบปืนลูกซอง 2 กระบอกกระสุน 25 นัด สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 20 เล่มพร้อมบัตรเอทีเอ็ม 16 ใบ รถจยย.ซูเปอร์โฟร์ยี่ห้อซูซูกิ 1 คัน
          พล.ต.ต.คำรณวิทย์เผยว่า สืบเนื่องจากการขยายผลของชุดสืบสวนนครบาล 5 ได้เข้าจับกุมนายปฐมชัช หรือตี๋ จิระรัตนวงศ์ อายุ 40 ปี ได้ของกลางยาบ้า 20 เม็ด จากนั้นผู้ต้องหารับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากนายศุภวัฒน์ ขอบทองอายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/182 ถ.ไทยรามัญต.สามวาดะ เขตคลองสามวา กทม. และนายสุวิท แหลมพรรนัส อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่4/3 ต.ศาลลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรามีอาชีพขายรถมือสองอยู่บริเวณเต็นท์รถหทัยราษฎร์ เขตมีนบุรี กทม.  จึงได้นำมาค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหาทั้งสองราย จนพบของกลางดังกล่าว
          ด้านพล.ต.ต.สมิทธิเผยว่า ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นบ้านหลังดังกล่าวน่าจะเป็นจุดพักยาเสพติดมาแล้วหลายเดือน ซึ่งกำลังจะขนย้ายออกไปจากพื้นที่จังหวัดปทุมธานี สอบสวนชาวบ้านบอกว่าบ้านนี้ได้มีผู้ต้องหาพร้อมผู้หญิงชื่อฝน มาซื้ออยู่ประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งจะสอบสวนอีกครั้ง
          ที่จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 20 มี.ค. นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 300 นาย บุกเข้าตรวจค้นภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจค้นหาสิ่งของต้องห้ามและยาเสพติด โดยผู้ต้องขังหลายคนพยายามที่จะโยนโทรศัพท์มือถือออกทางหน้าต่าง และพบสมุดบัญชีรายชื่อลูกค้ายาไอซ์และยาบ้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งจะติดต่อสั่งยาเสพติด จึงยึดเอาไว้สืบสวนขยายผล ทั้งนี้จากการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ 25 เครื่องซิมการ์ดโทรศัพท์ 25 ซิม อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์ 9 ชุดสายไฟต่อพ่วงเพื่อใช้ในการชาร์จโทรศัพท์จำนวนมาก พบมีสารเสพติด 1 ราย สมุดบัญชีรายชื่อติดต่อสั่งซื้อยาเสพติด
          ที่จ.กาฬสินธุ์ น.พ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูลสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งให้ผอ.โรงพยาบาลกมลาไสยและเภสัชกร เข้าไปช่วยราชการที่กระทรวงฯ ซึ่งตนจะมีคำสั่งให้ น.พ.สมยศ  ศรีจารนัย รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทน ระหว่างสอบสวน ในส่วนร้านขายยาก็จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบอย่างละเอียด
          ที่จ.อุตรดิตถ์ พล.ต.ต.พิเชษฐ วัฒนลักษณ์ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายธีรพงษ์ เอี่ยมอ่อน เภสัชกร 7 ประจำโรงพยาบาลทองแสนขัน ช่วยราชการประจำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)อุตรดิตถ์ ลักลอบจำหน่ายยาแก้หวัดที่มีซูโดอีเฟดรีน ว่าหลังจากที่สั่งให้อายัดสมุดบัญชีธนาคารของนายธีรพงษ์และภรรยา 12 เล่ม ซึ่งมีเงินหมุนเวียนเกือบ 1 ล้านบาท และสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่คลังยา ว่าสั่งยาซูโดฯเข้ามาเท่าใด สำหรับคดีนี้นอกจากนายธีรพงษ์ ยังมีเจ้าหน้าที่การเงินเจ้าหน้าที่พัสดุและเจ้าหน้าที่คลังยา เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงด้วยกันซึ่งตำรวจพร้อมสอบต่อ หากสสจ.เข้าร้องทุกข์เพิ่มเติม
          ร.อ.น.พ.ภูริวรรธน์ โชคเกิด สสจ.อุตรดิตถ์กล่าวว่า สสจ.เตรียมออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงน.พ.สาโรจน์ ใจมุข ผอ.โรงพยาบาลทองแสนขัน โดยเสนอให้นายเฉลิมชัยเฟื่องคอนรองผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ รับทราบและเสนอต่อให้ผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งจะมีโทษถึงกับไล่ออกและปลดออก
          ที่จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผบช.ภาค 5 เผยว่า ทางตำรวจภาค 5 วิเคราะห์กรณีเรื่องการจับกุมยาเสพติดในช่วงไม่ถึง2 เดือนปรากฏว่าสามารถจับกุมยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้ากว่า 10 ล้านเม็ด ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติมาก จึงให้ชุดสืบสวนลงไปหาข่าว โดยสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจจะเป็นเพราะรัฐบาลพม่ากวาดล้างยาเสพติดในหมู่ชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนอย่างหนัก ทำให้ยาบ้าทะลักเข้าไทย หรืออาจจะมาจากรัฐบาลที่แล้วไม่มีนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ทำให้ขบวน การค้ายาเสพติดลำเลียงยาบ้าผ่านเข้ามายังเมืองไทย กระทั่งรัฐบาลชุดใหม่เอาจริงเอาจัง
          ที่จ.นครศรีธรรมราช ร.ต.ท.พีระพงศ์ หนูชนะพงส.เวร สภ.ย่อยมหาชัย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงถล่มกันด้วยอาวุธปืนสงครามที่บริเวณหน้าที่ทำการ อบต.นาทรายม.6 ต.นาทราย ริมถนนสายเบญจมะ-ท่าอากาศยาน มีผู้เสียชีวิต ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะอีซูซุตอนครึ่ง สีดำทะเบียน นก8219 นครศรีธรรม ราช เสียหลักพุ่งเข้าชนร้านค้าของชำเลขที่ 78/1 ต.นาทราย  อ.เมือง พังยับเยิน ภายในรถตรงที่นั่งผู้ขับขี่พบ ผู้เสียชีวิตสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 หลายนัด เข้าที่ศีรษะ ขมับ ลำตัวด้านขวาหลายนัด ประตูด้านผู้ขับขี่มีรอยกระสุนนับสิบรู ทราบชื่อต่อมาคือนายสมศักดิ์ คันธิก อายุ 42 ปี หรือที่รู้จักในนาม เมี้ยบ พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ในตัวมีสร้อยคอทองคำ เลสข้อมือ น้ำหนักประมาณ 10 บาท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ค้นภายในรถมีการติดตั้งเครื่องเสียงหรูหราทั้งคันมีลำโพงนับ 10 ตัว และพบเงินสดประมาณ 3 แสนบาท จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยมี น.ส.เรวดีวิเวกรักษ์ อายุ 25 ปี มาขอรับทรัพย์สินดังกล่าวโดยระบุว่าเป็นภรรยาของผู้ตาย
          เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลก่อนเกิดเหตุ ทราบว่านายสมศักดิ์ หรือเมี้ยบ ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่มีฐานะร่ำรวย ก่อนเกิดเหตุไม่นานขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุออกมาจาก อ.พรหมคีรีมุ่งหน้าไปหาภรรยาที่อยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 ก.ม. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายใช้รถยนต์กระบะสีขาวไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนตามประกบแล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่ จนนายสมศักดิ์เสียชีวิตทันที
          พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เผยว่า ตรวจสอบประวัติของผู้ตายพบว่าเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้วเมื่อ
 


pageview  1204953    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved