เดลี่เมล์เปิดตัวคู่รักชาวอินเดียที่ฝ่ายชายเป็นท้าวแสนปม ทั้งตัวมีตุ่มตะปุ่มตะป่ำ แต่ฝ่ายหญิงไม่รังเกียจ ใช้ชีวิตคู่กันมาจนมีลูก 4 คน
          ท้าวแสนปมแห่งแดนภารตะ มีชื่อว่าโมฮัมหมัด อุมาร์ อายุ 62 ปีอาศัยอยู่ในเมืองไฮเดอราบัด เล่าว่า ตนเองเริ่มมีตุ่มขึ้นที่มือตั้งแต่อายุ14 ปี จากนั้นตุ่มก็ค่อยๆ ลามไปทั่วร่าง จนตะปุ่มตะป่ำทั้งตัว ผู้คนที่เห็นต่างพากันกลัวและรังเกียจ
          หมอบอกว่า หากแต่งงานและมีลูก ลูกก็อาจเป็นแบบเดียวกับตน ทำให้อุมาร์กลัวมาก
          กระทั่ง อุมาร์อายุ 28 ปี พบรักกับ ฟาร์ฮัต-อัน-นิสา และแต่งงานกันฝ่ายหญิงไม่รังเกียจที่อุมาร์มีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์เพราะรู้ว่าเป็นคนดี
          "ฉันรู้สึกได้ว่าอุมาร์เป็นผู้ชายที่ดี มีจิตใจดีและมีน้ำใจ ครอบครัวฉันเตือนว่า ในอนาคตอาจต้องลำบาก หากโรคผิวหนังของเขาแย่ไปกว่านี้ แถมยังไปปรึกษาหมอแทนฉัน แต่ฉันตัดสินใจเสี่ยง"ฟาร์ฮัต กล่าวจากนั้นทั้งสองตัดสินใจมีลูก และโชคดีที่ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
          อุมาร์เคยทำงานเป็นเด็กยกกระเป๋าที่สถานีรถไฟ แต่เมื่อตุ่มลามไปทั่วตัว ทำให้ไม่มีใครอยากจ้าง "คนเห็นผมเป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากให้ยกกระเป๋า เจ้านายจึงไล่ผมออก ผมพยายามหางานอื่นทำก็มีแต่คนไล่และทำสีหน้ารังเกียจ ผมอายมาก"อุมาร์เล่า กระทั่งท้ายสุด ฟาร์ฮัต ฝ่ายภรรยาได้งานในโรงเรียนแถวบ้าน
          อุมาร์รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ในฐานะหัวหน้าครอบครัวและพ่อของลูกๆ ซึ่งอุมาร์และฟาร์ฮัตมีลูกด้วยกัน 4 คน ได้แก่ ชามา ลูกสาววัย 25 ปีแต่งงานแล้ว และลูกชายคือ ฮุสเซน อายุ 20 ปีสุบานี 18 ปี และคาจา 12 ปี
          อุมาร์กล่าวว่า "ผมไม่อยากให้ลูกเห็นผมในสภาพแบบนี้ ลูกควรจะเคารพศรัทธา แต่ผมเป็นพ่อแบบไหนกันที่เลี้ยงดูครอบครัวไม่ได้"บางครั้งอุมาร์จึงออกไปขอทาน เคยโดนตะโกนด่าไล่ โดนผลัก แต่ก็ยังมีคนสงสารให้เงิน อุมาร์บอกว่าจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือครอบครัว
          สำหรับโรคดังกล่าว เรียกว่า NEUROFIBROMATOSIS หรือ NF เกิดจากความผิดปกติของยีน ดังนั้นจึงถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกได้ โดยมีผลทางเซลล์ประสาทเส้นใย ปรากฏอาการทางผิวหนัง เป็นรอยจ้ำๆ ก่อน จากนั้นเนื้องอกนูนเป็นตุ่ม ซึ่งไม่มีทางรักษาตุ่มนูนเหล่านี้แม้ว่าจะใช้การผ่าตัด หรือวิธียิงเลเซอร์
          ดร.ชิลูกุรี ศรีนิวาส ที่ปรึกษาด้านเนื้องอกของโรงพยาบาลยาโชดาในเมืองไฮเดอราบัดกล่าวว่า ยังไม่มีทางรักษาโรคนี้ได้ เป็นแล้วใช้ชีวิตลำบาก หมอหวังว่าจะช่วยอะไรอุมาร์ได้บ้าง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก โชคดีหน่อยที่อุมาร์ไม่รู้สึกเจ็บปวดตามร่างกาย
          อุมาร์กล่าวว่า ลำบากมาก ช่วงหน้าร้อน เหงื่อออกทำให้คันไปทั้งตัว นอนไม่ค่อยหลับ ตนพยายามดูแลตัวเองไม่ให้น่ารังเกียจไปมากกว่านี้ภรรยาช่วยโกนหนวด ตัดผมให้
          ด้านฟาร์ฮัตกล่าวว่า "ฉันมีความสุขมาก ไม่เสียใจเลย ถึงบ้างครั้งจะนึกไม่ออกว่าเมื่อก่อนสามีหน้าตาเป็นแบบไหน แต่ก็ไม่สำคัญแล้ว เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือเราได้อยู่ด้วยกัน
          อุมาร์กล่าวว่า ชีวิตนี้ถ้าไม่มีภรรยาคนนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
          "ภรรยาเป็นพรในชีวิต ผมโชคดีจริงๆ ที่มีเธอ"