HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 26/12/2556 ]
สวดมนต์ข้ามปี สร้างจิตใจให้สงบ
 
          "วันคืนล่วงไปบัดนี้เราทำอะไรอยู่" เป็นพระพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้าที่เคยตรัสไว้ เพื่อเตือนให้เรารู้ว่าวันเวลาเป็นของประมาทไม่ได้ เผลอเพียงอึดใจเดียว ปีใหม่ก็เวียนมาครบอีกครั้ง แล้วมีสิ่งใดที่เราได้ทำประโยชน์ต่อตนเอง ผู้อื่น หรือ ประเทศชาติ หรือไม่ เป็นสิ่งที่ต้องหมั่นถามตัวเองอยู่เสมอ
          ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังคงวุ่นวายและคุกรุ่นไปด้วยความขัดแย้ง ยังมีกิจกรรมส่งท้ายปลายปีที่อาจทำให้จิตใจทุเลาและบรรเทาความวุ่นวายต่างๆ ทำให้เกิดความสงบทางจิตใจขึ้นได้บ้าง กับกิจกรรม "สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดีชีวิตดี" ที่เชิญชวนประชาชนมาร่วมสวดมนต์อธิษฐานจิตให้สงบและตั้งปณิธานเรื่องดีๆ ที่คิดทำ ไม่ว่าเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือ ทำเพื่อส่วนรวม เพราะเชื่อว่า "ธรรมที่ดีที่สุด" ไม่ใช่การสวดมนต์อ้อนวอน แต่คือการ "ลงมือทำ"
          ครั้งนี้ถือว่าก้าวมาสู่ปีที่ 4 ของกิจกรรมทางเลือกดีๆ ส่งท้ายปลายปีกับ "สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดีชีวิตดี" ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จับมือร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กรุงเทพมหานคร สำนักงานพระพุทธศาสนา ภาคีเครือข่ายงดเหล้า และหน่วยงานในภูมิภาค รวมทั้งหน่วยงานภาคเอกชน ที่ร่วมกันสร้างกิจกรรมทางเลือก เปิดพื้นที่สร้างสรรค์แทนปาร์ตี้หนักหน่วงส่งท้ายปี
          จากกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี 2555-2556 ที่มีวัดเข้าร่วมกว่า 1 หมื่นวัด ใน 4 ภาคทั่วประเทศ รวมทั้งประชาชนที่เนืองแน่นท้องสนามหลวง ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาประเมินว่า มีประชาชนที่เข้าร่วมสวดมนต์ตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 30 ล้านคน ยังไม่นับผู้ที่สวดมนต์ที่บ้านโดยดูการถ่ายทอดสดอีกจำนวนมาก ในปีนี้ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนามที่ปรึกษาสสส. ประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี อธิบายถึงการเตรียมการและความพร้อมในปีนี้ว่า ในส่วนของสนามหลวงมีการขยายพื้นที่ในการจัดงานเพิ่มขึ้น รองรับประชาชนได้ถึง 400,000 คน ซึ่งเป็นผลพวงจากเสียงตอบรับที่ดีของประชาชนที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา
          กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในคืนข้ามปี จะมีการสวดบทอิติปิโส ซึ่งหมายถึง บทสวดสรรเสริญพระพุทธองค์ รำลึกถึงพระพุทธองค์ 86 จบ เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 86 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 81 พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 61 พรรษา และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 59 พรรษา รวมทั้งเจริญสติภาวนา ถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
          นอกจากนี้ ยังมีการแสดงธรรมบันเทิง เพื่อเคลือบน้ำตาลบนยาขมส่งให้คนรุ่นใหม่ โดยนำเรื่องราวแห่งองค์ "พระมหาเวสสันดรชาดก" มาถ่ายทอดเป็นละครเพลงแห่งการดับทุกข์อันยิ่งใหญ่ "มหาชาติ มหาบุรุษ" พระมหาเวสสันดรชาดกนั้น ถือเป็นชาดก เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์ที่ได้เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรและเป็นพระชาติสุดท้ายก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
          การบำเพ็ญทานของพระเวสสันดรเป็นการแสดงให้เห็นถึงอุดมการณ์อย่างแน่วแน่ ในการกระทำทานของพระเวสสันดร แม้จะพบอุปสรรคแต่พระองค์ก็ไม่ละความมุ่งมั่นด้วยทรงมุ่งประโยชน์สูงสุด คือ พระโพธิญาณ อันจะเป็นเครื่องนำพาสรรพสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์
          ทานบารมี จึงเป็นการแสดงธรรมอันยิ่งใหญ่ของการให้ และการลด ละ ตัวตน เพื่อนำชีวิตไปสู่ความสงบอย่างแท้จริง โดยจะมีนักแสดงและนักร้องชื่อดังร่วมแสดงกว่า 100 ชีวิต นำโดย อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์ รับบท พระเวสสันดร, ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ รับบท พระนางมัทรี เป็นต้น
          "ไม่มีการขจัดความขัดแย้งใดๆ ดีไปกว่าการใช้พุทธธรรม ซึ่งการสวดมนต์ข้ามปีที่มีประชาชนเรือนแสน เรือนล้าน มาร่วมตั้งจิตบริสุทธิ์เป็นหนึ่งเดียว กันนั้น ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลต่อประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีจิตใจที่บริสุทธิ์ และสงบพร้อมเริ่มดำเนินชีวิตในปีใหม่บนความไม่ประมาทต่อรัก โลภ กิเลส หลง" ศ.นพ.อุดมศิลป์ ให้คติทิ้งท้าย
          การสวดมนต์นั้น ตั้งแต่อดีต คือ การประมวลหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า หรือ เรียกว่า มุขปาฐะ ดร.พระมหาสุทิตย์ อาภากโร ผอ.สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ อธิบายให้กระจ่างว่า การนำคำสอนของหลักศาสนาไปประพฤติ ปฏิบัติ โดยการสวดมนต์ จะสร้างจิตใจให้สงบ เมื่อเริ่มสวดมนต์ความกระวนกระวาย วิตกจะหายไป ดังนั้นจึงเกิดเป็นอานิสงส์แห่งการสวดมนต์ กลายเป็นสิ่งสิริมงคล และเจริญรุ่งเรือง
          การอธิษฐานเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง เป้าหมายในการประพฤติ ปฏิบัติดี ทำจิตใจให้มั่นคง จากนั้นจึงเกิดเป็นการทำดีทั้งกาย วาจา ใจ
          แก่นของคำสอน จึงเป็นการลงมือทำ ลงมือประพฤติ ปฏิบัติในสิ่งที่ทำให้ตนเองมีความเจริญ ดังเช่นคำว่า "ธรรมที่ดีที่สุด คือ ธรรมที่ลงมือทำ" ในปีนี้ สสส.จึงได้มีกิจกรรมให้ประชาชน "ร่วมสร้างพระทำ" คือ การเขียนคำปณิธานของตัวเอง เพื่อเป็นการย้ำเตือนไม่ให้เผลอลืมความตั้งใจที่จะทำไปตลอดทั้งปี ด้วยการเขียน คำตั้งมั่นทำดีของตัวเองลงบนแผ่น Post-it เพื่อนำไปประกอบกันเป็นองค์พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่จะเกิดจากการประกอบความตั้งใจของทุกคนที่ร่วมกิจกรรม กว่า 1 แสนชิ้น
          การสร้างพระทำมีวิธีเข้าร่วมได้เพียงง่ายๆ โดยสามารถคลิกเข้าไปสร้าง "พระทำ"ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ สสส. www.facebook.com/thaihealth หรือ www.สวดมนต์ข้ามปี.com จากนั้นเลือกตำแหน่งที่จะติด Post-it บนองค์พระ โดยเลือกหมวดหมู่ให้กับความตั้งมั่น จากนั้นกรอกคำปณิธานตั้งมั่นจะทำสิ่งดีๆ ของตัวเอง แล้วคลิกส่งข้อความ ก็จะได้รับบทสวดมนต์สำหรับคำตั้งมั่นนั้น และจะมีบทสวดมนต์สำหรับหมวดหมู่ของความตั้งใจนั้นๆ ด้วย
          การสวดมนต์ยังสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ หากสวดไม่เป็นหรือจำไม่ได้ ก็มีตัวช่วย เช่น แอพพลิเคชั่น ThaiHealth : Pray for Life ที่พร้อมด้วยบทสวดมนต์คืนข้ามปี บทสวดตามความตั้งมั่นสำหรับผู้ใช้ บทสวดประจำวันเกิด บทสวดตามวันสำคัญ และรวมบทสวดสำคัญ ก-ฮ ที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรีๆ รวมทั้งตรวจสอบวัดใกล้บ้าน การเดินทางต่างๆ ด้วย
          ปีใหม่นี้ข้ามปี ด้วยการ "ทำดี" ไปด้วยกัน

pageview  1205892    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved