รศ.พญ.จรินทร์ทิพย์ สมประสิทธิ์ ภาควิชาสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงเรื่องการเตรียมน้ำหนักตัวก่อนตั้งครรภ์เพื่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อย จากโครงการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน "รวมพลัง ขยับกาย สร้างสังคมไทย ไร้พุง" เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า ปัญหาโรคอ้วนพบได้สูงขึ้นในทุกประเทศ โดยรายงานทั่วโลกพบได้เฉลี่ยถึง 1 ใน 5 ของประชากรทุกวัย รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ ช่วงตั้งครรภ์ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่อาจทำให้เกิดโรคอ้วนตามมาหลังคลอด เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์ส่วนหนึ่งจะมีความเชื่อเน้นการบริโภคมากๆ เพื่อให้ลูกคลอดออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ ขณะที่มีการออกกำลังกายหรือมีกิจกรรมการเคลื่อนไหวทางร่างกายลดลงเพราะกังวลกระทบกระเทือนลูกในครรภ์จนเกิดภาวะอ้วน
รศ.พญ.จรินทร์ทิพย์กล่าวว่า จากการศึกษาย้อนหลังโดยราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ในเรื่องผลของภาวะน้ำหนักขึ้นเกินเกณฑ์มาตรฐานขณะตั้งครรภ์ในหญิง ตั้งครรภ์ที่มีดัชนีมวลกายปกติและสูงกว่าปกติต่อภาวะแทรกซ้อนในมารดาและทารก พบว่าในกลุ่มคุณแม่ที่น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานในช่วงตั้งครรภ์จะส่งผลทำให้น้ำหนักของทารกแรกคลอดโดยเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มแม่ที่น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์ แม่กลุ่มนี้ยังเสี่ยงต่อการใช้เวลาในการคลอดนานขึ้น และมีโอกาสคลอดโดยการผ่าตัดสูงขึ้นด้วย ดังนั้น ควรขอคำแนะนำจากแพทย์เพื่อประเมินพฤติกรรมการบริโภค การเติบโตของทารกในครรภ์ร่วมด้วย
"ระหว่างตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์จึงควรสนใจการเตรียมน้ำหนักตัวก่อนตั้งครรภ์ และการขึ้นของน้ำหนักตัวที่เหมาะสมในช่วงตั้งครรภ์ด้วย การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม รวมทั้งการเฝ้าระวังการขึ้นของน้ำหนักตัวในช่วงตั้งครรภ์ จึงเป็นส่วนที่สำคัญในการช่วยลดโอกาสการเกิดโรคอ้วนตามมาหลังคลอด" รศ.พญ.จรินทร์ทิพย์กล่าว