"มะเร็งเต้านม" ภัยร้ายที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรมองข้าม โรคนี้ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า หากมีอาการเกิดขึ้นเมื่อใดนั่นหมายความว่าโรคร้ายได้มาเยือนแล้ว
มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่เกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม มีการเปลี่ยนแปลงจนเป็นมะเร็งเต้านม อาการของโรคที่พบบ่อยได้แก่ มีก้อนที่เต้านม บางรายอาจมีอาการเจ็บร่วมด้วย อาการอื่นเช่น มีเลือดออกที่หัวนม เต้านมบวมเป็นเปลือกส้ม สิ่งที่รับมือได้ดีที่สุดเพื่อให้รู้เท่าทันมะเร็งเต้านมคือการตรวจเต้านมเป็นประจำ เพื่อให้ทราบว่าเราไม่มีโรคร้ายแฝงอยู่ หรือถ้าพบในระยะต้นๆ จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมาก และการรักษาที่ดีที่สุดก็ยังเป็นการผ่าตัด
"October Go Pink 2013" เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไปตระหนักถึงการดูแลสุขภาพและการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยวิธีแมมโมแกรมอย่างน้อยปีละครั้ง เนื่องจากแพทย์ยืนยันแล้วว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้
เป็นอันดับ 1 แม้ว่ามะเร็งเต้านมจะพบในผู้หญิงมากที่สุดก็ตาม
นพ.ดุลย์ ดำรงศักดิ์ รองประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 2 และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เผยว่า สถิติล่าสุดพบว่าโรคมะเร็งเต้านมพบเป็นอันดับ
1 ของหญิงไทย และพบมากในกลุ่มสตรีอายุ 40 ปีขึ้นไป และมักพบแพทย์ในระยะลุกลามที่ยากต่อการรักษา โรงพยาบาลสมิติเวชจึงจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อรณรงค์ให้ความรู้ วิธีป้องกัน ตลอดจนวิธีการใช้ชีวิตอย่างถูกต้องเมื่อป่วยเป็นโรคนี้
ภายในงานมีกิจกรรมการถักหมวกไหมพรมจากจิตอาสาเพื่อมอบให้ผู้ป่วยสถาบันจุฬาภรณ์ที่ผมร่วงจากการให้เคมีบำบัด การสาธิตวิธีการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง ไฮไลต์ของงานยังอยู่ที่การบริจาคผมของเหล่าเซเลบที่พร้อมจะตัดผมของตัวเองเพื่อมอบให้สถาบันนิวลาวัณย์ แฮร์เซ็นเตอร์ นำไปถักทอเป็นวิกผมเพื่อมอบให้ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมต่อไป
หัวแรงสำคัญของการทาบทามเซเลบใจบุญที่พร้อมจะบริจาคผมคือ หนิง ศรัยฉัตร จีระแพทย์ กุญชร ณ อยุธยา ภรรยาคนสวยของ จามร จีระแพทย์ ผู้บริหารคลื่น MET FM พันธมิตรสำคัญของโครงการ
หนิง ศรัยฉัตร เผยว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้วตัดผมไป 12 นิ้ว ด้วยความตั้งใจและเต็มใจอย่างยิ่ง การที่เราจะเลี้ยงผมได้ยาวขนาดนี้ต้องใช้ความอดทนและหมั่นดูแลอย่างมาก เพื่อให้ผู้ป่วยได้ผมที่มีสุขภาพดีไปทำวิกผม ซึ่งสวมใส่สบายอย่างมากเพราะเป็นผมธรรมชาติ จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของโครงการนี้ไปโดยปริยาย กลายเป็นว่าพอเห็นใครผมยาวจะต้องเข้าไปเลียบเคียงถามว่าสนใจทำบุญด้วยวิธีการนี้หรือไม่
"ทุกวันนี้ยังแอบปลื้มอยู่เลยว่าเส้นผมของเราไป เสริมความงามและความมั่นใจให้ผู้ป่วยรายใด เรื่องของความสวยความงามไม่เข้าใครออกใคร ขนาดผู้ชายยังกลัวศีรษะล้าน เพราะฉะนั้นเรื่องความงามกับผู้หญิง คงไม่ต้องพูดถึง เพราะการที่ผู้หญิงเราต้องผมร่วงเพราะเคมี หนิงบอกได้เลยว่าเป็นการสูญเสียความมั่นใจอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นการบริจาคผมจึงเป็นเรื่องเพียง น้อยนิดที่ผู้หญิงเราช่วยกันได้และได้บุญ ด้วยค่ะ"
ปีนี้โครงการ "October Go Pink 2013" จึงมีโอกาสต้อนรับอีก 2 เซเลบสาวมาบริจาคผมตามคำชักชวนของแบรนด์แอมบาสซาเดอร์
ทิพธิดา สุขุม เผยถึงการเข้าร่วมโครงการว่า "พอพี่หนิงชวนแธมไม่ลังเลเลย กลับรู้สึกยินดีด้วยซ้ำที่ผมของตัวเองจะได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์แก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เพราะก่อนหน้านี้ก็ตัดผมเก็บไว้เป็นช่อๆ อยู่บ้างเพราะ
ไม่รู้จะนำไปใช้อะไรได้ ที่สุดก็ต้องทิ้งไป รู้สึกดีใจมากที่ได้มีส่วนช่วยผู้ป่วย เพราะเขาเหล่านั้นแค่เป็นโรคก็แย่อยู่แล้ว ยังต้องมาให้คีโมจนเกิดผลข้างเคียงคือผมร่วงอีก ดังนั้นถ้าเส้นผมของเราสามารถช่วยสร้างความมั่นใจได้ก็เป็นที่สุดของความดีใจเลยค่ะ "
ด้าน ณุช เนาวเขตต์ ดีไซเนอร์คนดังที่ไปสร้างชื่อเสียงระดับโลก เล่าให้ฟังว่าได้พบพี่หนิงโดยบังเอิญ พอเขาเห็นเราไว้ผมยาวก็เข้ามาถามว่าสนใจตัดผมเพื่อบริจาคไหม เพราะก่อนหน้านี้ทุกๆ 6 เดือนก็เล็มออกประมาณ 6 นิ้วอยู่ประจำ แต่ก็พอทราบอยู่บ้างว่ามีโครงการนี้เพียงแต่ยังไม่มีจังหวะมากกว่า ณุชจึงไม่ลังเลเลยที่จะตอบรับกับพี่หนิง
"พอตอบตกลงแล้วก็พยายามดูแลผมตัวเองมากขึ้น ลูบเบบี้ออยล์มาตลอด 2 เดือนก่อนตัด เพราะก่อนหน้านี้เป็นสาวผมยาวที่ไม่ชอบไดร์ผม สระผมเสร็จก็ปล่อยให้แห้งเลย ยังเสียดายด้วยว่าไปทำสีผมมาเพราะเดิมผมณุชจะดำมากสวยทีเดียวหากไปทำวิก แต่ก็ดีใจที่สุดค่ะที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมโครงการนี้ ฝากไปยังผู้ป่วยด้วยนะคะว่าณุชมอบให้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งค่ะ"