จากกรณีการส่งต่อข้อความและเผยแพร่ลิงก์ข้อมูลอาหารห้ามรับประทานอาจอันตรายถึงชีวิต โดยระบุอาหารที่กินคู่กันแล้วอาจก่อให้เกิดอันตราย อาทิ เต้าหู้กับน้ำผึ้ง ห้ามรับประทานด้วยกันจะทำให้หูหนวก หัวไชเท้ากับผลไม้ทุกชนิด จะทำให้เกิดคอพอก ถั่วลิสงกับฟักทอง ทำให้เกิดลำไส้อักเสบ เหล้าขาวกับเบียร์ จะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก รวมไปถึงการกินทุเรียนกับน้ำอัดลม จะทำให้มีพิษร้ายมากกว่าพิษงูเห่านั้น มีการส่งต่อข้อความดังกล่าวไปทั่วทั้งในเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก

          นายสง่า ดามาพงษ์ อุปนายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยก็ไม่ควรรับประทานอาหารแปลกๆ หรืออาหารที่พิสดารมากๆ เพราะอาจเสี่ยงได้รับอันตรายสูง ซึ่งการได้รับพิษจากอาหาร ปกติจะมาจาก 4 สาเหตุ คือ 1.เกิดจากพิษในตัวอาหารเอง 2. เกิดจากการปนเปื้อนของสารเคมี 3.การปนเปื้อนของเชื้อโรค จุลินทรีย์ ทำให้อาหารบูดเน่า และ 4.อาหารที่มีพยาธิ ปรุงสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ ก้อย ปลาดิบ เป็นต้น หากหลีกเลี่ยงได้ก็จะทำให้การบริโภคถูกสุขลักษณะขึ้น

          "การกินหัวไชเท้ากับผลไม้ทุกชนิดจะทำให้เกิดคอพอก หรือเต้าหู้กับน้ำผึ้งหากกินด้วยกันจะทำให้หูหนวก ตรงนี้ไม่มีข้อมูลวิชาการมายืนยัน แต่กรณีการกินถั่วลิสงกับฟักทองจะทำให้ลำไส้อักเสบนั้น จากข้อมูลหลักโภชนาการไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจากถั่วลิสงเป็นไขมัน ฟักทองมีวิตามินเอ ซึ่งไขมันจะทำละลายวิตามินเอได้ดี ซึ่งจะส่งผลดีมากกว่า มีเพียงกรณีการดื่มเหล้าขาวกับเบียร์ร่วมกันจะทำให้เส้นเลือดสมองแตกได้ ตรงนี้มีความเป็นไปได้ ส่วนการกินทุเรียนกับน้ำอัดลมร่วมกันมีพิษร้ายมากกว่างูเห่านั้น อาจดูรุนแรงเกินไป แต่อันตรายย่อมมี เพราะทุเรียนกับน้ำอัดลม มีทั้งแก๊สและน้ำตาล จะส่งผลให้เกิดอาการช็อกได้" นายสง่ากล่าว