HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 18/10/2556 ]
พายุ'นารี'ฟาดกรุง-ท่วม12จุดจราจรติดหนึบทั้งวันฝายแตก-เมืองชลจม

 

   พายุ 'นารี' ฟาดกรุง จม 12 จุด เขตสวนหลวงฝนหนักสุด 144 ม.ม. กทม.สั่งเร่งระบาย ทำจราจรทั่วกรุงอัมพาต ถนน 10 สายรถติดหนึบ 'สุขุมพันธุ์' ตรวจน้ำหนองจอก สั่งลดระดับประตูน้ำระบายช่วยฝั่งตะวันออก จับตาฝนต่อเนื่องอีก 2 วัน สนามบินสุวรรณภูมิระดมป้อง 'ปู' ตรวจกรุงเก่า-ปทุมฯ 'ชัชชาติ' ลุยแก้ท่วมขังรังสิต-หน้าม.กรุงเทพ สั่งเร่งหาแก้มลิงช่วยรับน้ำ ฝายชลบุรีแตก จมบ้านเรือนครึ่งเมตร เขาสามมุขดิน-หินถล่ม แถมมีน้ำป่าหลากซ้ำตัวเมือง พัทยาก็มีท่วมขัง กบินทร์ฯ ยังผวาน้ำเขาใหญ่ถล่มซ้ำ
          'ปู'ตรวจกรุงเก่า-ปทุมฯ
          เมื่อวันที่ 16 ต.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ในวันที่ 17 ต.ค.จะลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ไม่ไกลจากกทม.
          นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า วันที่ 17 ต.ค. นายกฯ จะเดินทางไปตรวจราชการและมอบสิ่งของ ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยที่จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นนทบุรี และจ.ปทุมธานี โดยเวลา 13.00 น. จะเดินทางจากทำเนียบรัฐบาลด้วยขบวนรถยนต์ไปยังประตูระบายน้ำคลองข้าวเม่า ข้างวัดกระสังข์ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจประตูระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจ โดยผวจ.พระนครศรีอยุธยาจะสรุปสถานการณ์ปริมาณน้ำ และผอ.โครงการชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะสรุปภาพรวมการป้องกันพื้นที่เขตเศรษฐกิจจังหวัด จากนั้นนายกฯ จะไปยังวัดป่าโค ต.บ้านเกาะ เพื่อพบปะประชาชนและมอบถุงยังชีพ
          นายธีรัตถ์กล่าวอีกว่า หลังเสร็จภารกิจที่จ.พระนครศรีอยุธยา จะเดินทางไปยังใต้สะพานพระราม 4 ท่าน้ำปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อนั่งเรือไปวัดปรมัยยิกาวาส เกาะเกร็ด โดยมีผวจ.นนทบุรีสรุปสถานการณ์น้ำ จากนั้นนายกฯ จะพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนและมอบถุงยังชีพ ก่อนล่องเรือไปวัดชัยสิทธาวาส ต.กระแชง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจและติดตามปริมาณน้ำ และพบปะประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเมื่อเดินทางถึงผวจ.ปทุมธานีจะกล่าวสรุปสถานการณ์ หลังจากนั้นจะไปพบปะประชาชนและเยี่ยมชมศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ต.กระแชง และเดินทางกลับ
          'ชัชชาติ'ลุยแก้ท่วมขังรังสิต
          วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยในเฟซบุ๊กว่า หลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงช่วงเช้าวันที่ 16 ต.ค. จึงลงพื้นที่ตรวจจุดที่มีปัญหาน้ำท่วม ในส่วนที่กระทรวงคมนาคมรับผิดชอบ โดยมีจุดสำคัญคือ บริเวณหน้าม.กรุงเทพ จ.ปทุมธานี ที่พบน้ำท่วมขังเป็นเวลานานทุกครั้งที่ฝนตกหนัก สร้างความลำบากให้กับนักศึกษาและประชาชนในละแวกนั้นอย่างมาก จากการตรวจสอบพบเป็นจุดพื้นที่ต่ำ เพราะพื้นที่โดยรอบปลูกสร้างอาคาร ถมที่สูงและดูดน้ำมาใส่ถนน เส้นทางระบายน้ำจากถนนสู่คลองไม่สะดวก
          ดังนั้น จึงหารือและมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำลอดถนนพหลโยธินเพื่อปล่อยลงคลองหนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยการเพิ่มเครื่องสูบน้ำ เพื่อให้น้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วขึ้น รวมทั้งหาพื้นที่แก้มลิงเพื่อรับน้ำชั่วคราวในพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งต้องพยายามทำให้น้ำแห้งภายในเที่ยงวัน ส่วนจุดอื่นๆ ที่มีปัญหาหน้าเซียร์รังสิตมีน้ำท่วม 20-25 ซ.ม. ถนนสุขุมวิทแยกสำโรง-ปู่เจ้าท่วม 20 ซ.ม. จึงมอบหมายให้กรมทางหลวงเร่งระบายแก้ไขอย่างเร่งด่วนเช่นกัน
          นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยปัจจุบันทำให้ถนนและสะพานในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบเสียหายในพื้นที่ 16 จังหวัด เสียหายกว่า 240 สายทาง เป็นถนนที่เสียหาย แต่ประชาชนยังสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ 211 สายทาง และเป็นถนนที่ได้รับผลกระทบประชาชนไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้ 29 สายทาง
          สรุปยังจมอีก 24 จังหวัด
          ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.ถึงปัจจุบันเกิดอุทกภัยรวม 46 จังหวัด ประชาชนได้รับ ผลกระทบ 3,648,383 คน บ้านเรือนเสียหาย 31,523 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,571,038 ไร่ ผู้เสียชีวิต 65 ราย ขณะนี้คลี่คลายแล้ว 24 จังหวัด
          นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า จากที่นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์อุทกภัยและเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยในอ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา มีข้อสั่งการเชิงนโยบายการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ การแบ่งมอบภารกิจในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการให้ความช่วยเหลือครอบคลุมทุกด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านการระบายน้ำ ให้กรมชลประทานร่วมกับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว 2.ด้านการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียและจัดหาน้ำดื่มสะอาด ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก 3.ด้านการฟื้นฟู เส้นทางคมนาคม มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยทหารเร่งดำเนินการซ่อมแซมถนนและสะพานที่เสียหาย
          นายกฯ แบ่งงานเยียวยาช่วย
          นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า 4.ด้านการปิดล้อมพื้นที่สำคัญให้กระทรวงคมนาคม หน่วยทหารและจังหวัดจัดทำแนวกั้นน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่สำคัญได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจ เขตชุมชนและเส้นทางคมนาคมหลัก 5.ด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ทั้งที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือน ศูนย์พักพิงชั่วคราวและจุดอพยพ
          นายฉัตรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า 6.ด้านการสำรวจความเสียหาย มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสานดำเนินการสำรวจความเสียหายให้ครอบคลุมทั้งในส่วนของบ้านเรือน ทรัพย์สิน และพื้นที่การเกษตร 7.ด้านสุขภาพอนามัย ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลสุขภาพอนามัยทั้งด้านร่างกายและสภาพจิตใจของประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และ 8.ด้านการช่วยเหลืออื่นๆ มอบให้กระทรวงมหาดไทย โดยปภ. ดำเนินการวางหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมการดำเนินงานในทุกด้าน
          เตือนพายุนารีซัด 7 จว.อีสาน
          ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนพายุไต้ฝุ่นนารีระบุว่า พายุไต้ฝุ่นนารีได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม โดยอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ได้เข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยบริเวณจ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และจ.อุบลราชธานีแล้ว พายุนี้จะทำให้มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณจ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และจ.อุบลราชธานี ในระยะ 1-2 วันนี้
          สำหรับในช่วงวันที่ 16-19 ต.ค. ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศ เย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 5-8 องศาเซลเซียส จากอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงที่แผ่ลงมาปกคลุม
          'สุขุมพันธุ์'ตรวจน้ำหนองจอก
          วันเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมนายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกทม.ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมภายในหมู่บ้านฟลอร่าวิลล์ เขตหนองจอก ซึ่งถูกน้ำท่วมขังตามถนน 20-50 ซ.ม.หลังฝนตกตลอดทั้งคืน โดยสั่งการให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 2 เครื่อง จากเดิมที่มีอยู่ 3 เครื่อง
          ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมากรุงเทพฯ มีฝนตกหนักถึง 135 ม.ม. โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออก ทำให้ได้รับผล กระทบหลายพื้นที่ อีกทั้งวันที่ 15 ต.ค.มีการเปิดประตูระบายน้ำค่อนข้างสูง จึงสั่งการให้ลดระดับประตูระบายน้ำต่างๆ เพื่อระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้อยู่ในระดับปกติก่อน โดยประตูระบายน้ำคลองแสนแสบประชาร่วมใจ ตอนมีนบุรี จากเดิมเปิดอยู่ที่ 1.50 เมตร ลดลงเหลือ 1 เมตร ประตูระบายน้ำบางชันลดเหลือ 68 ซ.ม. ประตูระบายน้ำลาดกระบังลดเหลือ 1 เมตร รวมทั้งจะระบายน้ำจากฝั่ง ตะวันออกลงไปยังคลองหัวตะเข้และคลองบางโฉลงด้วย
          ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในคลองต่างๆ ขณะนี้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยในคลองแสนแสบประชาร่วมใจ ตอนมีนบุรี จาก 85 ซ.ม.เพิ่มเป็น 1 เมตร คลองแสนแสบช่วงบางชัน จาก 50 ซ.ม.เป็น 68 ซ.ม. และคลองลาดกระบังจาก 48 ซ.ม.เป็น 56 ซ.ม. ขณะเดียวกัน กทม.ได้ประสานกรมชลประทานเพื่อให้ช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกด้วย
          จากนั้นม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เดินทางไปสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ บริเวณคลองสุวรรณภูมิ ซึ่งมีเครื่องสูบ 4 เครื่อง โดยอยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน เพื่อขอให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำ
          เร่งรับมือฝนถล่มกรุงหนัก
          ที่ศาลาว่าการ กทม. นายอดิศักดิ์ ขันตี ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวถึงปริมาณฝนตกในพื้นที่ว่า จากเมื่อคืนที่มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ตั้งแต่เวลา 02.00 น.จนถึงช่วงเช้าจนกลายเป็นละอองฝน ซึ่งเป็นผลจากหย่อมความกดอากาศต่ำทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ จากอิทธิพลดังกล่าวทำให้กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักสะสมสูงสุดที่มีนบุรี ลำบึงขวาง วัดได้ 80 ม.ม. และดินแดงฝนตกหนักสะสมวัดได้ 83 ม.ม. ส่วนในพื้นที่อื่นตกหนักเบาสลับกันวัดได้ที่ 30-40 ม.ม. ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำคลองเพิ่มสูง จึงพิจารณาให้ลดบานประตูระบายน้ำฝั่งตะวันออกลงทุกบาน เพื่อเร่งพร่องน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เข้าสู่สภาวะปกติเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝน สำหรับปัญหาน้ำท่วมขังที่รับรายงานนั้นมีพื้นที่สุวินทวงศ์ มีนบุรี เตาปูน และนิคมมักกะสัน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างใช้เครื่องสูบน้ำระบายลงคลอง
          นายอดิศักดิ์กล่าวต่อว่า วันที่ 16 ต.ค. กรุงเทพฯ มีอากาศมืดครึ้มและฝนอ่อนปกคลุมพื้นที่โดยทั่วไป ยกเว้นพื้นที่ด้านตะวันออก พร้อมกันนี้จะยังต้องเฝ้าดูสถานการณ์ฝนไปอีก 1-2 วันนี้ รวมถึงในวันที่ 17 ต.ค. ที่คาดว่าจะมีน้ำทะเลหนุนสูง
          กรุงอ่วมฝน-จม 12 จุด
          ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กทม. 1555 รับแจ้งจากประชาชนว่า ขณะนี้มีน้ำท่วมขังหลายจุด ได้แก่ 1.ม.เสรีอ่อนนุช ซ.อ่อนนุช 70/1 ถ.อ่อนนุช 2.ซ.อ่อนนุช 82 สุขุมวิท 77 เขตประเวศ 3.บริเวณสี่แยกลาซาล ถ.ศรีนครินทร์ ซอยบางนา-ตราด 1 ตลอดซอย เขตบางนา 3.ตลอด ซ.ลาดพร้าว 42 แยก 5 ถ.ลาดพร้าว เขตห้วยขวาง 4.ภายใน ซ.พหลโยธิน 32 ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร 5.ตลอดทั้ง ซ.งามวงศ์วาน 45 ถ.งามวงศ์วาน เขตหลักสี่
          6.ตลอดทั้ง ซ.พหลโยธิน 56 แยก 4-1 เขตสายไหม 7.ภายใน ซ.หัวหมาก 21 ถ.หัวหมาก เขตบางกะปิ 8.ภายใน ซ.นวมินทร์ 70 แยก 8.ถ.นวมินทร์ ม.ปัฐวิกรณ์ ซอยนวมินทร์ 70 แยก 8 เขตบึงกุ่ม 9.หน้าวัดลาดพร้าว (ริมคลองลาดพร้าว) เขตลาดพร้าว 10.ม.พิพรพงษ์ 2 ถ.วิภาวดีรังสิต เขตดอนเมือง 11.ม.รุ่งอรุณ 2 ถ.ฉลองกรุง เขตลาดกระบัง 12.ม.ธีรวรรณ ถนนพระยาสุเรนทร์ เขตคลองสามวา
          ขณะที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมรายงานสถานการณ์ฝนในพื้นที่ว่า ขณะนี้ปริมาณฝนตกหลายพื้นที่มากกว่า 100 ม.ม. โดยฝนตกสูงสุดที่เขตสวนหลวง 144 ม.ม. สายไหม 138 ม.ม. และมีนบุรี 137 ม.ม. ส่วนพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในซอยต่างๆ ขณะนี้สำนักการระบายน้ำเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะใช้เวลาในการระบายน้ำไม่เกิน 2-3 ช.ม.
          ถนนติดหนึบอีก 10 สาย
          ขณะที่พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องทำให้การจราจรติดขัดใน 10 สาย ได้แก่ 1.ถนนลาดพร้าว ตั้งแต่ปากทางลาดพร้าวถึงแยกแฮปปี้แลนด์ 2.ถนนพระราม 4 ตั้งแต่แยกหัวลำโพงถึงแยกพระราม 4 3.ถนนสุขุมวิทต่อเนื่องถนนเพลินจิตและถนนพระราม 1 ตั้งแต่แยกพงษ์พระรามถึงแยกบางนา 4.ถนนรัชดาภิเษกต่อเนื่องถนนอโศกมนตรี ตั้งแต่แยกประชานุกูลถึงแยกรัชดาพระราม 4 5.ถนนรามคำแหงตั้งแต่แยกรามคำแหงถึงแยกคลองเจ๊ก ต่อเนื่องถนนพระราม 9 จากแยกรามคำแหง ถึงทางเชื่อมต่อถนนจตุรทิศ ไปจนตลอดแนวจตุรทิศ
          6.ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิถึงสะพานใหม่ และถนนเกษตรนวมินทร์ ตั้งแต่แยกเกษตรศาสตร์ถึงแยก นวมินทร์ 7.ถนนสาทรเหนือ และสาทรใต้ ตลอดสาย 8.ถนนราชดำเนินตั้งแต่ลานพระราชวังดุสิต ต่อเนื่องสะพานพระปิ่นเกล้า ไปจนถึงถนนบรมราชชนนี และถนนคู่ขนานลอยฟ้า 9.ถนนเพชรบุรี ตั้งแต่แยกอุรุพงษ์ ถึงแยกคลองตัน และ 10.ถนนวิภาวดีรังสิตตลอดสาย
          สนามบินสุวรรณภูมิระดมป้อง
          นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผอ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีระบบป้องกันน้ำท่วมจากภายนอก ซึ่งมีลักษณะเป็นเขื่อนดินล้อมรอบพื้นที่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อนดินเพื่อสร้างความมั่นใจ นอกจากนี้ ยังตรวจ เช็กระดับน้ำภายในคลองโดยรอบ อาทิ คลองลาดกระบัง คลองหนองงูเห่า
          นางระวีวรรณกล่าวอีกว่า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมในการรองรับปริมาณน้ำฝนภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น มีระบบป้องกันทั้งการกักเก็บน้ำและระบบระบายน้ำ โดยจะมีคลองและอ่างเก็บน้ำซึ่งทำเป็นแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำภายในพื้นที่ทั้งหมด 6 แห่ง
          ฝายชลบุรีแตก-เขาสามมุกดินถล่ม
          ส่วนสถานการณ์พายุฝนพัดถล่มในต่างจังหวัด ที่จ.ชลบุรี สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดดินที่เขาสามมุขติดกับศาลเจ้าแม่สามมุขเกิดสไลด์ตัวลงมา พร้อมกับต้นไม้ขนาดใหญ่และขนาดเล็กลงมาพร้อมกัน ทำให้ต้นไม้และดินถมถนน รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เทศบาลแสนสุขต้องระดมเจ้าหน้าที่ตัดกิ่งไม้และนำหินออกจากบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านห้วยสาลิกา ต.หนองไม้แดง อ.เมืองชลบุรี กว่า 10 หลัง ยังถูกน้ำป่าที่ไหลมาจากภูเขาใกล้เคียง เข้าท่วมแบบไม่ทันตั้งตัว ระดับสูงกว่า 1.5 เมตร ทำให้สิ่งของเสียหาย
          ขณะที่อ.หนองใหญ่ ฝายเก็บน้ำในต.ห้างสูง ไม่สามารถรับน้ำฝนที่ตกตลอดทั้งคืนและเกิดพัง กว้างประมาณ 6 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในหมู่บ้านป่าแดง ต.ห้างสูง กว่า 10 หลัง ระดับสูง 50 ซ.ม. นอกจากนี้ยังมีการระบายน้ำจากอ่างช้างน้ำ อ.บ้านบึง ส่งผลให้น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมตลาดหัวกุญแจ อ.บ้านบึง แล้ว สูงประมาณ 20 ซ.ม.
          พัทยาท่วมขังนับเมตร
          สำหรับย่านพัทยาเกิดฝนตกหนัก โดยนายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านบางละมุงฝั่งธน ม.4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง หลังได้รับความเสียหายจากพายุนารีพัดถล่มและเกิดน้ำไหลหลากจนท่วมขังสูง 1 เมตร บ้านเรือนเสียหาย 47 หลัง
          นายวีระศักดิ์ นาผม ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.บางละมุง กล่าวว่า เป็นปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากของชุมชนหากเจอพายุฝนกระหน่ำ เนื่องจากพื้นที่เป็นแอ่งกระทะที่รองรับการระบายน้ำจากแหล่งต่างๆ
          ด้านนายศักดิ์ชัยเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้อพยพข้าวของชาวบ้านไปไว้ในที่ปลอดภัยและประสานไปยังเทศบาลตำบลบางละมุงให้เข้ามาช่วยเหลือด้วย
          ช่วยแม่เฒ่าสระแก้ว-บ้านพัง
          ที่จ.สระแก้ว ทหารและฝ่ายปกครองนำกำลังช่วยเหลือนางบุญภารวย แก้วปัญญา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.1 ต.ฝากห้วย อ.อรัญประเทศ หลังถูกกระแสน้ำจากครองพรหมโหดท่วมสูงและเซาะฐานดินใต้ถุนบ้าน ทำให้บ้านเกิดทรุดทั้งหลังและใกล้ จะพัง โดยเจ้าหน้าที่เร่งขนของกันอลหม่าน
          ด้านนางจรัส ใยเยื้อ ปภ.สระแก้วฝากเตือนไปยังผู้ที่ปลูกบ้านเรือนอยู่ริมคลอง หากเห็นท่าไม่ดีให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว เพื่อนำกำลังเข้าไปขนย้ายข้าวของออกจากบ้านทันที
          กบินทร์ผวา-น้ำหลากซ้ำ
          ที่จ.ปราจีนบุรี ในพื้นที่มีฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางดึก ทำให้ปริมาณน้ำทรงตัว ส่วนที่อ.กบินทร์บุรี ระดับน้ำเริ่มลดลง เหลือเพียงชุมชนตลาดเก่ากบินทร์ที่ยังท่วมขังอยู่ ล่าสุดน้ำจากฝนที่ตกหนักได้ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่าน อ.นาดี ก่อนไหลมายังอ.กบินทร์บุรี ซึ่งอาจทำให้เขตเทศบาล ตำบลกบินทร์ถูกน้ำท่วมอีกครั้ง ขณะที่อ.ประจันตคาม อ.ศรีมหาโพธิ และ อ.เมืองปราจีนบุรี ระดับน้ำลดลงเช่นกัน
          ต่อมา สภ.บ้านสร้างรับแจ้งคนจมน้ำเสียชีวิตที่บ้านหนองงูเหลือม ม.9 ต.บางพลวง อ.บ้านสร้าง รุดตรวจสอบเป็นพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตร และพบศพนายปรีดา สีดี อายุ 38 ปี สอบสวนทราบว่าผู้ตายไปช่วยหมู่บ้านขนถุงยังชีพ กระทั่งมาจมน้ำเสียชีวิต เบื้องต้นน.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผวจ.ปราจีนบุรี มอบเงินช่วยเหลือ 50,000 บาท

pageview  1205848    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved