HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 26/02/2555 ]
ฮาเวิร์ด'โต้อ้างไม่รู้ทำแท้งผิดกม. 'หมวย'ขอจบ-รับผิดเอง 'กลุ่มสตรี'ชม-กล้าหาญ จี้รัฐดูแล'ท้องไม่พร้อม'
          'หมวย พิลาวรรณ' นางแบบสาวเปิดใจขอยอมรับผิดคนเดียวเรื่องไปทำแท้ง เตือนลูกผู้หญิงอย่าเดินซ้ำรอยจนชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็นยืน ยัน 'ฮาเวิร์ด หวัง' อดีตแฟนหนุ่มตามกดดันให้เอาเด็กออกจริง จากนี้ไปขอยุติการพูดโต้กันไปมาก็ไร้ประโยชน์ ด้านฝ่ายชายบอกไม่รู้กฎหมายไทยเรื่องความผิดฐานทำแท้งตอนนี้กังวลใจมากเนื่องจากมีคดีติดตัวแต่คิดว่าคงไม่ถึงขั้นติดคุก อย่างมากก็โดนส่งกลับไต้หวันขณะที่นักสิทธิสตรีและเด็กชี้สังคมต้องเห็นใจเข้าใจนางแบบสาวที่กล้าออกมายอมรับผิด แนะรัฐเร่งวางแผนป้องกัน-เยียวยาหาทางออกให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ส่วนผู้ชายที่ทำให้ท้องต้องร่วม รับผิดชอบในตัวเด็กตามกฎหมายด้านตำรวจจ่อเรียกคู่กรณีทั้งสองคนมาสอบ ตามจับกุมแหล่งทำแท้ง
          จากกรณี "ฮาเวิร์ด หวัง" ดารา-นายแบบหนุ่มแบดบอย อดีตนักร้องบอยแบนด์รุ่นจิ๋ว"ไจแอนท์" ยอมรับว่าเคยพา "หมวย"น.ส.พิลาวรรณ อารีรอบ อดีตแฟนสาว มิสแม็กซิม 2010 ไปทำแท้งจริง แต่เป็นการสมยอมไม่ได้บังคับแตกต่างจากที่ฝ่ายหญิงให้ข่าวว่าถูกฝ่ายชายกดดันบีบบังคับ หาว่ากุเรื่องขึ้นมากระทั่งสุดท้ายถอดใจยอมไปทำแท้ง แต่ชีวิตก็ทุกข์ทรมานย่ำแย่มาโดยตลอดถึงขั้นกินยา 40 เม็ดหวังฆ่าตัวตายจนต้องเข้าร.พ. จากนี้อะไรจะเกิดขึ้นพร้อมรับทุกอย่าง
          ภายหลังกระแสข่าวดังกล่าวเผยแพร่ตามสื่อล่าสุดส่งผลให้พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญรองผบช.น. (ดูแลงานป้องกันปราบปราม) ระบุว่ามอบให้พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ผกก.ดส.) ตรวจสอบข้อมูล หากเป็นจริงต้องดำเนินคดี เพราะผิดกฎหมายอาญามาตรา 301 ในข้อหาว่าผู้หญิงใดยินยอมให้ผู้อื่นทำแท้งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท ส่วนผู้ชายหากพาไปทำแท้งโดยมีส่วนรู้เห็นมีความผิดต้องโทษ2 ใน 3 ในข้อหาเรื่องสนับสนุนโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 พันบาท
          'ฮาเวิร์ด'ยันไม่ได้บีบทำแท้ง
          ความคืบหน้า เมื่อเวลา08.30 น. วันที่ 24 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ห้องถ่ายทอดสดสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สนามเป้านายฮาเวิร์ด หวัง เดินทางมาออกรายการ "5 เช้าข่าวดี" และให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่มีข่าวออกมาเครียดจนนอนไม่หลับ มีผู้ใหญ่เตือนแล้วว่าไม่ให้พูดอะไร แต่เพราะเป็นคนตรงๆ เมื่อถามมาก็ตอบไป เรื่องนี้หมวยออกมาพูดก่อนตอนแรกตนคิดว่าการออกมาพูดครั้งนี้จะทำให้อะไรดีขึ้น แต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิดไว้
          ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายหญิงบอกว่าฮาเวิร์ดเป็นคนบังคับให้ไปทำแท้ง นายแบบหนุ่มปฏิเสธว่าไม่ได้บังคับ ก่อนหน้านี้เราเลิกกันไปแล้ว จู่ๆหมวยฝากบอกเพื่อนมาว่าท้องกับตนพร้อมกับฝากที่ตรวจครรภ์มาให้ดู ตอนนั้นตกใจจึงไปบอกแม่ แม่คุยกับหมวยว่าให้มาตรวจดีเอ็นเอว่าใช่ลูกตนหรือเปล่า หลังจากนั้นหมวยไม่ยอมให้แม่กับตนติดต่อไปอีก บอกแค่ว่าจะเลี้ยงลูกเอง
          ครวญขอ'บวช'ไถ่บาป
          ฮาเวิร์ดระบุว่า หลังจากนั้นไม่นานหมวยติดต่อมาบอกว่ามีแฟนใหม่แล้ว ไม่ไหว ขอให้ขับรถไปส่ง ก่อนจะไปตนถามว่าแน่ใจแล้วหรือทั้งยังถามย้ำอีกครั้งก่อนที่จะลงจากรถ หลังจากนั้นรออยู่ประมาณ 20 นาที หมวยกลับลงมาหน้าซีดมาก เดินจะไม่ไหว ตนไม่รู้ว่าทำจริงหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานอะไร
          ผู้สื่อถามว่าเหตุใดตอนแฟนสาวบอกว่าท้องจึงไม่รับเป็นพ่อเด็ก ฮาเวิร์ดตอบด้วยสีหน้าเครียดว่า ตนไม่พร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องวัยหน้าที่การงาน และสภาวะการเงิน และตัวเองก็เกิดมาจากครอบครัวแตกแยก ถ้าไม่พร้อมไม่อยากให้เด็กเกิดมา ในความคิดของตนถ้าเด็กเกิดมาตอนที่ยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งมาดีกว่า
          เมื่อถามว่าหลังจากมีข่าวออกไปมีผลกระทบอะไรกับเรื่องงานบ้างฮาเวิร์ดกล่าวว่า "ต้องขอบคุณพี่พจน์ อานนท์ ที่ไม่แบนออกจากหนังเรื่องปล้นนะยะ ภาค 2 ส่วนงานอื่นๆยังไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบขนาดไหน ถ้าช่วงนี้งานหายไปก็คงจะไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อเตรียมตัวบวชเพราะรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา อยากบวชให้กับการทำผิดครั้งนั้น แต่ยังไม่มีกำหนดบวชที่แน่นอน"
          เครียด-มีข้อหาติดตัวหลายคดี
          ผู้สื่อข่าวระบุว่าในเรื่องของกฎหมายการพาไปทำแท้งถือว่ามีความผิด ฮาเวิร์ดทำหน้างงก่อนกล่าวว่า ไม่ทราบและยังไม่มีตำรวจติดต่อเข้ามาเมื่อถามต่อไปว่าตำรวจกำลังเตรียมจะเอาผิดโทษฐานสมรู้ร่วมคิด มีโทษจำคุก 2 ปี และปรับเงินอีกจำนวนหนึ่ง เตรียมตัวตั้งรับอย่างไร นักแสดงหนุ่มถึงกับแสดงอาการเครียดก่อนเผยว่า "เพิ่งทราบ ก่อนหน้านี้ไม่รู้เลยว่ามีความผิด ผมไม่รู้กฎหมายไทยในข้อนี้ ตอนนี้รู้สึกกังวลมาก เพราะยังมีคดีติดตัวอยู่ 2 คดี คือ ทำร้ายร่างกาย กับมียาเสพติดอยู่ในครอบครอง ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการสู้คดี น่าจะจบปีนี้ ถามว่ากลัวว่าจะติดคุกหรือเปล่า คงไม่ติดเพราะไม่ใช่คนไทย แต่คิดว่าทางเจ้าหน้าที่คงส่งตัวกลับไต้หวัน แล้วห้ามเข้ามาประเทศไทยกี่ปี ตามข้อกำหนดทางกฎหมาย"
          ต่อข้อถามว่า คิดว่าจะกลับมาทำงานในวงการบันเทิงไทยได้อีกหรือไม่ หลังจากเจอเรื่องหนักขนาดนี้ ฮาเวิร์ดตอบว่า "ขึ้นอยู่กับความสามารถผมรักในสิ่งที่ทำ และขึ้นอยู่กับโอกาสว่าจะมีผู้ใหญ่ให้หรือเปล่า อยากทำให้แม่ภูมิใจ"
          ตร.ขอข้อมูล-จับแหล่งทำแท้ง
          พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.ดส. ระบุว่าการดำเนินการเรื่องนี้กก.ดส.ต้องทราบสถานที่ที่นายฮาเวิร์ดพาน.ส.พิลาวรรณไปทำแท้งก่อนว่าเป็นที่ใด เนื่องจากกก.ดส.ไม่มีอำนาจเชิญตัวทั้ง2 คนมาสอบปากคำหรือแจ้งข้อหา เพราะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดี ปัจจุบันทำได้เพียงติดต่อขอความร่วมมือจากนายฮาเวิร์ดและน.ส.พิลาวรรณให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ทำแท้ง
          "หากไม่ได้รับความร่วมมือ ตำรวจต้องสืบสวนหาข้อมูลเอง และต้องบุกจับขณะกำลังทำความผิดร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพราะไม่มีอำนาจดำเนินคดีเอง และต้องรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนท้องที่นั้นเป็นผู้รับผิดชอบ" ผกก.ดส.กล่าว
          'หมวย-ฮาเวิร์ด'ต้องโดนด้วย
          พ.ต.อ.สุพัชรกล่าวอีกว่า หากพบว่าน.ส.พิลาวรรณไปทำแท้งจริง จะมีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 301 ข้อหาว่าผู้หญิงใดยินยอมให้ผู้อื่นทำแท้งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับส่วนนายฮาเวิร์ดหากเป็นผู้พาไปทำแท้ง ถือว่ามีส่วนรู้เห็นต้องมีความผิดต้องโทษ 2 ใน 3 ข้อหาสนับสนุน มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ผกก.ดส.ระบุว่าจากสถานการณ์เกี่ยวกับเด็กและสตรีทุกวันนี้มีความเสื่อมลงของวัฒนธรรมเด็กรุ่นใหม่ขาดความยับยั้งชั่งใจ ห่างไกลศีลธรรมจริยธรรมที่ดี กก.ดส.จึงริเริ่มโครงการเกี่ยวข้องกับการอบรมขัดเกลาจิตใจเยาวชน โดยนำโครงการ "โรงพักวิถีพุทธ" นำเอาเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงประพฤติตนไม่เหมาะสมมาปลูกฝังให้มีจิตสำนึกที่ดี มีกลุ่มเป้าหมายคือเด็ก ม.ต้นม.ปลาย โดยมีแผนจะร่วมมือกับสถานศึกษาต่างๆในกทม.ส่งเข้ามาร่วมโครงการเริ่มชุดแรกต้นเดือนมี.ค.นี้
          ด้านพ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รองผกก.ดส.กล่าวว่า ได้หมายเลขโทรศัพท์ฝ่ายหญิงมาแล้วแต่โทร.ไปไม่รับสาย เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนแม้เจ้าตัวรับระหว่างให้สัมภาษณ์ แต่เมื่อเชิญมาสอบถามอาจปฏิเสธ แต่จะพยายามสืบสวนว่าไปทำแท้งที่ใด
          ชี้'สังคม'ควรเห็นใจฝ่ายหญิง
          สำหรับมุมมองของนักวิชาการด้านสตรีและเด็กที่มีต่อข่าวทำแท้งของฮาเวิร์ด หวัง และอดีตแฟนสาว
          น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้ประสานงานมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิงให้สัมภาษณ์"ข่าวสด" ว่า กฎหมายเรื่องทำแท้งมีอยู่ในกฎหมายอาญา 5 มาตรา คือ 301-305 ซึ่งมาตรา305 ระบุว่า ทำแท้งได้โดยแพทย์เป็นผู้กระทำและหญิงนั้นมีปัญหาสุขภาพ หรือถูกข่มขืน หรืออายุต่ำกว่า 15 ปี ถ้าเข้าข่ายนี้ไม่มีความผิด
          น.ส.ณัฐยาระบุว่า การที่หญิงคนหนึ่งทำแท้งจนต้องฆ่าตัวตายและไม่ได้รับการช่วยเหลือจากส่วนไหนเลย หากเป็นประเทศที่มีการให้ความช่วยเหลือ สิ่งที่หญิงคนนั้นจะได้รับคือการดูแลหลังทำแท้ง ซึ่งบ้านเราไม่มี การดูแลนี้คือ1.ดูแลทางกายว่ามีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่2.ดูแลจิตใจ ให้คำปรึกษา การดูแลเชิงศาสนาเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดเป็นตราบาป 3.ให้คำปรึกษาเรื่องคุมกำเนิด
          "สังคมไทยไม่มีระบบเหล่านี้ มองว่าเป็นปัญหาส่วนบุคคล ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ทั้งเจ้าตัวยังถูกประณามจากประชาชนและสื่อแต่กรณีนี้ผู้หญิงออกมายอมรับอย่างกล้าหาญ พร้อมยอมรับผิด สังคมควรเห็นใจแต่ไม่ปล่อยให้เรื่องเหล่านี้ผ่านไปโดยไม่แก้ไขเพราะยังมีผู้หญิงอีกมากที่ไม่เป็นข่าวซึ่งฆ่าตัวตายไปโดยที่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากเหตุผลใด"น.ส.ณัฐยากล่าว
          จี้รัฐวางระบบป้องกัน-เยียวยา
          ผู้ประสานงานมูลนิธิสร้างความเข้าใจสุขภาพผู้หญิงกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า 1.ไม่มีการถอดบทเรียนประสิทธิภาพของกฎหมายห้ามทำแท้ง 2.การให้ความรู้เพศศึกษาไม่เข้มแข็งและไม่ทั่วถึง 3.บริการคุมกำเนิดสำหรับครอบครัวไม่เหมาะกับคนโสด ต้องได้รับการปรับปรุง เพราะสังคมมีแนวโน้มคนแต่งงานช้าลง
          น.ส.ณัฐยาระบุต่อไปว่า หากเกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม สังคมไทยยังให้ความช่วยเหลือไม่ครบวงจรเพื่อให้คำปรึกษาหญิงนั้นว่ามีทางเลือก ไม่จำเป็นต้องทำแท้งอย่างเดียว แต่ยังมีบ้านพักฉุกเฉินหากถูกสังคมตราหน้าขับไล่ไม่มีที่ไป หรือถ้าเลือกที่จะตั้งครรภ์ต่อจนคลอดแต่ไม่พร้อมที่จะดูแล เพราะครอบครัวไม่ยอมรับต้องมีบริการการยกบุตรบุญธรรมจะได้ไม่นำเด็กไปทิ้งตามถังขยะหรือสถานที่ต่างๆ เช่น ในประเทศเยอรมนี หากนำเด็กไปวางไว้ในจุดที่จัดให้บริการในร.พ.จะเป็นที่ทราบว่ายกเด็กนั้นให้กับรัฐและรัฐจะหาพ่อแม่บุญธรรมให้ นั่นคือการช่วยเหลือ แต่ในบ้านเราไม่มี นอกจากนี้ ยังไม่มีการดูแลหลังการทำแท้งอีกด้วย
          "ทุกวันนี้มีผู้หญิงที่บาดเจ็บจากการทำแท้งเถื่อนปีหนึ่งเป็นหมื่นคนเสียงบประมาณดูแลหญิงที่ไปทำแท้งไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท จึงน่าจะนำงบฯ ดังกล่าวมาทำระบบป้องกัน ระบบช่วยเหลือที่รอบด้าน และเยียวยาฟื้นฟูหลังการทำแท้ง" น.ส.ณัฐยากล่าว
          ทางแก้-ผู้ชายต้องร่วมรับผิดชอบ
          ด้านนายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ผอ.มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก กล่าวว่า สำคัญสิ่งที่ต้องเรียนรู้คือผู้ชายไม่รับผิดชอบ และกฎหมายไทยมีจุดอ่อนทำให้ผู้ชายไม่ระมัดระวังตัว การที่หญิงนั้นตั้งครรภ์เมื่อถูกชายบอกกล่าวให้ไปทำแท้ง แสดงว่าชายไม่มีความรักผูกพันกับเด็กแม้ว่าจะเป็นลูกของตนครึ่งหนึ่ง และสุดท้ายการทำแท้งควรทำเมื่อไม่มีหนทางอื่นในการแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่หมายความว่าในสังคมปัจจุบันไม่มีช่องทางแก้ไขและป้องกัน ผู้ชายต้องมีส่วนรับผิดชอบเด็กเหมือนกฎหมายในประเทศอื่นและมีกลไกของรัฐต้องเข้าไปรับผิดชอบ เช่นหักภาษี ส่งให้เลี้ยงดูอุปการะ ฯลฯ
          นายสรรพสิทธิ์อธิบายว่า การที่หญิงต้องทำแท้งส่วนหนึ่งเพราะชายไม่รับผิดชอบ เกิดความรู้สึกว่าไม่ได้รับความรัก ความจริงใจ ชีวิตไม่มีค่า เพราะคนที่รักไม่มีความรู้สึกแบบเดียวกันเลยเลือกฆ่าตัวตายตามแรงกดดันจากฝ่ายชาย อย่างไรก็ดี การทำแท้งอาจมีมากกว่าที่กฎหมายเปิดช่องให้ แต่ต้องผ่านกระบวนการปรึกษาจากผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อหาเหตุผลที่จำเป็น เพราะกฎหมายไม่ได้เปิดให้ทำแท้งเสรี
          ผอ.มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กกล่าวอีกว่าในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ครอบครัว ต้องไปเพิ่มเติมอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งจะทำให้ชายมีความระมัดระวังไม่ทำให้หญิงท้อง และเมื่อหญิงนั้นท้องขึ้นมาไม่จำเป็นต้องทำแท้ง เพราะมีผู้ชายที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบกฎหมายเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขจึงจะป้องกันและแก้ไขปัญหาได้
          'หมวย'เปิดใจ-ขอรับผิดทั้งหมดเอง
          เวลา 17.00 น. วันเดียวกัน หมวย พิลาวรรณนัดให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว"ข่าวสด" ที่บ้านพักย่านนวลจันทร์ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อชีวิตมาก อย่างที่บ้านจ.ปราจีนบุรีครอบครัวเป็นห่วงและคอยสอบถามตลอด ไปไหนมาไหนตัวเองต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่อยากเจอใคร มีแต่คนซุบซิบ ผิดกับเมื่อก่อนที่ไปไหนเราไปอย่างสง่าผ่าเผย อยากฝากบอกคนทั่วไปว่าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่ว่ากับใครก็ตามเพราะเป็นสิ่ง ไม่ดี เหมือนตกนรก ตนขอยอมรับผิดทั้งหมด แม้อีกฝ่ายไม่ยอมรับอะไรเลยก็ตามจากนี้ขอยุติการพูดแล้ว
          "ที่ฮาเวิร์ดออกมาให้ข่าว เขาไม่ได้พูดความจริง แต่หมวยคงไม่ตอบโต้ เพราะถึงตอบโต้ไปก็ไม่จบสิ้น ในเมื่ออีกฝ่ายพูดความจริงแต่อีกฝ่ายไม่พูดความจริงจึงเป็นเหมือนการโต้กันไปมา อย่างเรื่องที่บอกว่าเขาพยายามจะเข้ามาพูดกับหมวยเรื่องทำแท้งหมวยก็บอกว่าอย่าเข้ามายุ่ง หมวยจัดการเองได้ ทุกครั้งที่โทร.มาจะบอกว่าให้หมวยไปทำแท้งโดยเขาจะเป็นคนออกเงินให้ แต่หมวยอยากเก็บลูกไว้ จะดูแลลูกเองเขาไม่เคยบอกเลยว่าอยากเอาลูกไว้" หมวยเปิดใจ
          เมื่อถามว่าที่ออกมาพูดกลัวคนมองหรือไม่ว่าอยากดัง นางแบบสาวปฏิเสธ "ไม่จริง เพราะมีงานเยอะอยู่แล้ว ตอนนี้ถึงลดลงไปบ้างก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นผลจากข่าวที่เกิดขึ้นต้องยอมรับสภาพ ความจริงหมวยยังรู้สึกเลยว่าลูกยังวนเวียนอยู่ หมวยพยายามทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ลูกแม้จะรู้ว่าชดเชยกันไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกวันนี้ใช้วิธีนั่งสมาธิสวดมนต์เพื่อให้จิตใจดีขึ้นคิดว่าอีกไม่กี่วันจะไปบวชชีพราหมณ์ ความจริงเรื่องบวชตั้งใจจะไปตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมพอดีน้ำท่วมเลยไม่ได้ไป"

pageview  1204987    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved