พญ.ทัศน์วรรณ รังรักษ์ศิริวร อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า อัตราการคลอดของแม่วัยรุ่นมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี จากข้อมูลการจดทะเบียนการเกิดของกรมการปกครอง พบว่า แม่ที่แจ้งเกิดอายุน้อยที่สุดในไทยอยู่ที่ 8 ขวบเท่านั้น ปัญหาสำคัญ คือ วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น โดยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเฉลี่ยอายุ 15-16 ปี และไม่มีการคุมกำเนิด เพราะเข้าใจว่าการมีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ รวมไปถึงการขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่รู้จักการปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ ที่สำคัญวัยรุ่นยังเข้าไม่ถึงการให้บริการรับคำปรึกษาปัญหาวัยรุ่น การคุมกำเนิด และการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากวัยรุ่นยังไม่รู้จักสถานบริการ หรือไม่ได้รับความเป็นมิตรจากเจ้าหน้าที่
          พญ.ทัศน์วรรณกล่าวว่า แม้ภาควิชาสูติศาสตร์ฯ จะมีดรุณรักษ์คลินิก บริการรับคำปรึกษาเรื่องดังกล่าวแก่วัยรุ่น แต่ยอมรับว่าการเข้าถึงยังคงน้อย เพราะไม่เป็นที่รู้จัก กว่าวัยรุ่นจะมาก็เมื่อปัญหาบานปลายแล้ว เช่น เข้ามาขอทำแท้ง เป็นต้น ต่างจากองค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานด้านนี้ เช่น องค์การแพธประเทศไทย ซึ่งวัยรุ่นเข้าถึงได้ง่าย และเจ้าหน้าที่จะมีวิธีในการพูดให้คำแนะนำที่ดีแก่วัยรุ่น ซึ่งหากจะแนะนำให้วัยรุ่นกินยาคุมกำเนิด ควรแนะนำแบบที่ออกฤทธิ์นาน เพราะจากการวิจัยพบว่าร้อยละ 50 วัยรุ่นมักจะลืมรับประทานยาหากเป็นยาคุมกำเนิดประเภทรับประทานวันต่อวัน
          รศ.นพ.สุรสิทธิ์ ชัยทองวงศ์วัฒนา อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ภาควิชาสูติศาสตร์ฯ จะเชิญหน่วยงานต่างๆ ร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น ซึ่งจะมีการเปิดตัวเฟซบุ๊ก "ศูนย์สุขใจวัยว้าวุ่น" หลังจากเสวนาจะมีการจัดประกวดสื่อภาพยนตร์สั้น เพื่อพัฒนาเป็นต้นแบบชุดสื่อสารสำหรับสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศสำหรับวัยรุ่นและเยาวชน