จากการเปิดตัวโครงการ "4 เรื่องรักที่ไม่ลืมเลือน 4 GET - ME - NOT " จัดขึ้นโดยสมาคมผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมประเทศไทย สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย และบริษัท เอไซ (ประเทศไทย) มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เนื่องในเดือนอัลไซเมอร์โลก ในเดือนก.ย.
          พญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน นายกสมาคมผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมประเทศไทย บอกว่า ปัจจุบันโรคอัลไซเมอร์เป็นภาวะ ที่พบมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากจำนวนประชากรของไทยมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ป่วยจะมีอาการ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเอง มีปัญหาในเรื่องการใช้ภาษา การประสานงานของกล้ามเนื้อเสียไป ความจำเสื่อม ในเมืองไทยตอนนี้มีสถิติผู้ป่วยด้วย โรคอัลไซเมอร์ประมาณ 300,000 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้งและไม่ได้รับการ
          ดูแลเท่าที่ควร ดังนั้นโครงการ "4 เรื่องรักที่ไม่ลืมเลือน 4 GET - ME - NOT " จึงเกิดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักเรื่องโรคสมองเสื่อมว่าสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย แต่ต้องได้รับการรักษา ดูแลอย่างถูกวิธี ให้ความเห็นอกเห็นใจผู้ป่วยตลอดจนครอบครัวและผู้ดูแล ผ่านการถ่ายทอดเนื้อหาสู่ภาพยนตร์สั้น 4 เรื่อง ที่แตกต่างกัน
          การจัดฉายภาพยนตร์ควบคู่ไปกับกิจกรรม
          ประชาสัมพันธ์โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ร.พ.ชั้นนำ 10 แห่งทั่วกรุงเทพฯ โดยจะมีนิทรรศการเสริมความรู้เรื่องอัลไซเมอร์ พร้อมบูธตรวจสมรรถภาพร่างกาย
          นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย บอกว่า สมาคม ได้จัดทำหนังสั้น 4 เรื่อง คือ เรื่อง "ปู่ดำ...(จำไม??)" กำกับการแสดงโดย นนทรีย์ นิมิบุตร เรื่อง "ความทรงจำ ม้าหมุน ความรัก" กำกับการแสดงโดย เสรีย์ หล้าชนบท เรื่อง "ตลอดไป"
          กำกับการแสดงโดย ศิวโรจน์ คงสกุล และเรื่อง "MY LITTLE GIRL" กำกับการแสดงโดย โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ บางเรื่องอาจดูเหมือนบีบคั้นหัวใจผู้ชม แต่เชื่อว่าจะสะท้อนแง่มุมความเป็นจริงของ โรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน เภสัชกรทวีศักดิ์ สีทองสุรภณา ประธานกรรมการ บริษัท เอไซ (ประเทศไทย) มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บอกว่า บริษัท เอไซฯ ดำเนินการเกี่ยวกับจำหน่ายยา ให้ความสำคัญการค้นคว้าวิจัยพัฒนายารักษาโรค รวมถึงการมุ่งเน้นให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ดูแลผู้ป่วย และตัวผู้ป่วยเอง สนับสนุนโครงการโดยเห็นว่า โรคอัลไซเมอร์เป็นภัยคุกคามคนไทยมานานแล้ว คนไทยทั่วไปอาจยังไม่ค่อยให้ความสำคัญมากเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่โรคนี้อยู่ใกล้ตัวเรามาก
          "ที่สำคัญคือ ต้องการจุดกระแสสังคมให้ทุกคนหันมาใส่ใจโรคนี้อย่างจริงจัง เพื่อหาแนวทางรับมือ และแก้ไขได้อย่างถูกวิธีที่สุด"