ขยะไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป หากพิจารณาจากข้อมูลปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนในประเทศไทย พ.ศ.2548-2553 จากกรมควบคุมมลพิษ พบว่าปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2553 เฉลี่ย 41,532 ตันต่อวัน จำเป็นต้องมีการจัดการขยะเหล่านี้อย่างถูกวิธี ตั้งแต่คัดแยกไปจนถึงไม่ก่อขยะเพิ่ม เมื่อเร็วๆ นี้ กรมควบคุมโรค นำโดย นพ.บุญเลิศ ศักดิ์ชัยนานนท์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ดูงานการจัดการขยะชุมชน เทศบาลตำบล สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น อธิบายว่า ขยะชุมชนแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1.ขยะครัวเรือน ได้แก่ขยะเปียก ขยะแห้ง และขยะที่อันตรายไม่มาก เช่น ถ่านไฟฉาย ภาชนะใส่ยาและสารเคมี ขยะจากการกวาดถนน ซึ่งอาจมีสิ่งปฏิกูลปนมา 2.ขยะพิเศษและขยะอันตราย เช่น ขยะจากร.พ. ขยะพิษจากสารเคมี ยา ขยะอุตสาหกรรมที่ปะปนมา อาจมีกัมมันตภาพรังสีด้วย และ 3.ขยะอื่นๆ เช่น ซากสัตว์ ซากเฟอร์นิเจอร์ ขยะจากการก่อสร้าง บางทีมีแร่ใยหินปน ไขมันจากบ่อดักไขมัน กากจากบ่อกำจัดน้ำเสีย
          โดยชุมชนของเทศบาลตำบลสาวะถี คนในชุมชนได้ร่วมมือกันเริ่มจากผู้นำชุมชน แกนนำจัดการขยะในชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนในชุมชน อบรมให้ความรู้คัดแยกขยะในครัวเรือน และมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
          ทำให้เกิดการคัดแยกขยะออกเป็น 4 ประเภท
          1.ขยะรีไซเคิลหรือขยะที่สามารถนำไปขายได้ โดยจัดกิจกรรมคัดแยกขยะสะสมเงินทองคุ้มครองสุขภาพ ซึ่งสมาชิกต้องฝากเงินจากการขายขยะทุกเดือน มีผลคุ้มครองเมื่อขายขยะครบ 7 ครั้ง และมีเงินฌาปนกิจศพ ศพละ 5,000 บาท คุ้มครองทั้งครอบครัว
          2.ขยะพิษ มีกิจกรรมขยะพิษแลกแต้ม สะสมแต้มเพื่อแลกรางวัลทุกๆ 3 เดือน เช่น ถ่านไฟฉายใหญ่ 1 แต้ม หลอดไฟยาว 3 แต้ม กระป๋องยาฆ่าแมลงใหญ่ 3 แต้ม เป็นต้น
          3.ขยะอินทรีย์หรือขยะย่อยสลายได้ มี 2 กิจกรรม คือ การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ กำจัดเศษอาหารโดยขุดหลุมฝังกลบ อีกกิจกรรม คือ การจัดทำน้ำหมักชีวภาพใช้ในครัวเรือน และจัดตั้งกลุ่มทำน้ำหมักชีวภาพในชุมชน
          4.ขยะทั่วไป ลดปริมาณถังขยะโดยการเปลี่ยนถังขยะ เป็นขนาด 20 ลิตร ประจำครัวเรือน จัดทำถนนสายหลักปลอดถังขยะหมู่บ้านละอย่างน้อย 1 สาย รณรงค์ทำความสะอาดหมู่บ้าน เดือนละ 1 ครั้ง เป็นต้น
          ถือเป็นตัวอย่างกิจกรรมดีๆ ที่ชุมชนไหนๆ ก็สามารถช่วยกันได้