นายสุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการสนง.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 6 จังหวัดภาคเหนือตอนบน คือ จ.พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ลำปาง พบว่า สถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มจังหวัดดังกล่าวมีอัตราการบริโภคที่น่าเป็นห่วง ซึ่งการแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือ ทั้งตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพสามิต สาธารณสุขจังหวัด โดย 6 จังหวัดดังกล่าวถือเป็นจังหวัดนำร่องที่จะใช้บริบทของปัญหาในพื้นที่มาวางยุทธศาสตร์จังหวัด และนำเอามาตรการที่มีประสิทธิภาพในยุทธศาสตร์ ระดับชาติมาผสมผสานในการทำงาน
          "ปัญหาในพื้นที่เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งค่านิยมในการดื่มที่ยอมรับว่าเหล้าเบียร์เป็นสินค้าธรรมดา แสดงออกถึงหน้าตาของเจ้าภาพในงาน แก้เมื่อย แก้เจ็บ คลายเครียด การทำการตลาดโฆษณาของผู้ผลิต ขาดความจริงจังในการขับเคลื่อนนโยบายและการบังคับใช้กฎหมาย การมี โรงกลั่นพื้นบ้านจำนวนมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน และครอบครัว สังคม โดยรายได้จากการกลั่นเหล้าไม่คุ้มกับรายจ่ายทางสุขภาพที่รัฐและประชาชนต้องสูญเสีย" นายสุปรีดากล่าว
          นายสุปรีดากล่าวว่า ปัญหาที่หลากหลายจำเป็นต้องใช้มาตรการหลายอย่าง เช่น การบังคับใช้กฎหมายสรรพสามิต เพื่อคุมเรื่องการกลั่นเหล้าเถื่อนที่ทำให้เกิดการเข้าถึงง่ายเพราะมีราคาถูก และยังพบการปนเปื้อนยาฆ่าแมลง การรณรงค์เปลี่ยนค่านิยมของประชาชน ด้วยการสื่อสารรูปแบบต่างๆ ผ่านแกนนำในชุมชน การสร้างคนต้นแบบเพื่อให้เกิดค่านิยมใหม่ การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลด ละ เลิก และการบังคับใช้กฎหมายซึ่งมีคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ขับเคลื่อนนโยบายอย่างเข้มแข็ง ประเมินสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 1 เดือน และตั้งเป้าลดปริมาณการบริโภคในพื้นที่ลง