'วาฟ'เผย กทม.-ภาคกลาง อากาศเย็นอีกวัน จากนั้น 10 เม.ย. เริ่มร้อน  ช่วงสงกรานต์มีฝนตกประปรายบางพื้นที่ 'อีสาน-ตะวันออก'เจอพายุฤดูร้อนอีก 14-15 เมษาฯ
          เมื่อวันที่ 8 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) รายงานว่า ช่วงวันที่ 8-10 เมษายน บริเวณความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและจะเริ่มอ่อนกำลังลงในช่วงวันที่ 9 เมษายน ทำให้ยังคงมีลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนฝนจะลดลงและยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ส่งผลให้ภาคใต้ยังคงมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
          แบบจำลองวาฟ-รอม รายงานสภาพอากาศว่า สำหรับอุณหภูมิพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลาง ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงสายๆ วันที่ 8 เมษายน อยู่ที่ 21-23 องศาเซลเซียส และตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน อากาศช่วงเช้าอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 23-24 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นวันที่ 10 เมษายน อากาศจะกลับมาร้อนและเข้าสู่ฤดูร้อนทั่วไป โดยวันที่ 10-13 เมษายน จะมีฝนตกประปรายบางพื้นที่จากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพัดนำความชื้นมาจากอ่าวไทยไปยังประเทศไทยตอนบน
          "ส่วนวันที่ 14-15 เมษายน จะมีความกดอากาศสูงกำลังอ่อนถึงกำลังปานกลาง จะพัดมาจากประเทศจีนอีกครั้ง ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก อีกแต่ไม่มาก ทำให้เกิดฝนตก แต่ปริมาณไม่มากเท่ากับวันที่ 6-7 เมษายนที่ผ่านมา เพราะความกดอากาศสูงไม่แรงเท่าช่วงดังกล่าว และขอเตือนว่าช่วงวันที่ 8-10 เมษายน ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีความสูงคลื่นประมาณ 2-3 เมตร โดยเฉพาะชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และชุมพร ในช่วงวันที่ 8-9 เมษายน" แบบจำลองวาฟ-รอมระบุ
          ส่วนสภาพอากาศในจังหวัดต่างๆ ที่ จ.ขอนแก่น หน่วยงานต่างๆ นำถุงยังชีพมามอบให้กับชาวบ้านบ้านโนนเจริญ หมู่ 8 และบ้านห้วยเตย หมู่ 9 ต.ศรีสุขสำราญ อ.เมืองขอนแก่น หลังได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อน พายุลูกเห็บพัดถล่มบ้านเรือนเสียหาย นอกจากนี้ ยังพบว่าต้นไม้ถูกแรงลมพัดจนหักโค่น บางส่วนล้มทับสายไฟฟ้าทำไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน ส่วนที่บ้านโนนเจริญ หมู่ 8 มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 30 หลังคาเรือน นอกจากนี้ พายุยังถล่มพื้นที่ ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 7 หมู่บ้าน จำนวน 108 หลังคาเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 540 คน มีวัดและโรงเรียนเสียหาย 2 แห่ง
          ที่ จ.นครพนม สภาพอากาศแปรปรวนหนัก วันเดียวมีถึง 3 ฤดู จากสภาพอากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส แล้วมีฝนตก จากนั้นหนาวเย็น วันเดียวอุณหภูมิลดลงกว่า 10 องศาเซลเซียส มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ 14-15 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนเสี่ยงต่อปัญหาการเจ็บป่วย เนื่องจากร่างกายปรับสภาพไม่ทัน
          ที่ จ.บึงกาฬ ก็มีสภาพอากาศแปรปรวนจากร้อนอบอ้าว แล้วท้องฟ้ามืดครึ้ม ต่อมามีลมหนาวพัดแรง อุณหภูมิเช้าวันเดียวกันนี้อยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส ลดจากวันก่อน 4 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนต้องนำเอาเสื้อกันหนาวที่เก็บไว้ออกมาสวมใส่อีกครั้ง เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย นอกจากนี้ลมพัดแรงทำให้แม่น้ำโขงเกิดระลอกคลื่น กระทบต่อเรือโดยสารที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างท่าเรือศุลกากรบึงกาฬ-ท่าเรือโดยสารเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ที่ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งใช้เดินทางกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่จึงกำชับให้ผู้โดยสารสวมใส่เสื้อชูชีพเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
          ที่ จ.อำนาจเจริญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา เกิดพายุพัดกระหน่ำในพื้นที่หมู่บ้านเล่าแก้วแมง ต.คำเขื่อนแก้ว อ.ชานุมาน ทำให้นายบัวสอน แสนคุ้ม อายุ 63 ปี ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักเลขที่ 111 หมู่ 5 บ้านเล่าแก้วแมง ถูกต้นไม้ใหญ่หักโค่นลงมาทับ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตระหว่างนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอำเภอชานุมาน นอกจากนี้ พายุยังพัดศาลาวัดผาสุกการาม หมู่ 10 ต.โคกพระวินัยดี อ.ปทุมราชวงศา ซึ่งกำลังก่อสร้างเป็นศาลาขนาดใหญ่พังทับลงมาเสียหาย และบ้านเรือนรอบๆ วัดเสียหายอีก 3 หลัง
          ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีคลื่นลมแรง ทำให้ชาว ประมงเรือเล็กต้องนำเรือจอดหลบในที่ปลอดภัย ส่วนที่อ่าวมะนาว ภายในกองบิน 5 เจ้าหน้าที่ปักธงแดง ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลโดยเด็ดขาด นอกจาก นี้ มีบ้านเรือนบางส่วนได้รับความเสียหายเนื่องจากถูก น้ำทะเลกัดเซาะเป็นแนวยาว หลังจากมีลมแรงและคลื่นทะเลสูง 2-3 เมตร พัดเข้าชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง
          ที่ จ.สงขลา คลื่นลมในอ่าวไทยที่มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจนำบุตรหลานและครอบครัวมาพักผ่อนต้องผิดหวัง เนื่องจากไม่สามารถเล่นน้ำทะเลได้ ส่วนเรือประมงได้หลบเข้ามาอาศัยบริเวณหลังเกาะหนู เกาะแมว เพื่อกำบังคลื่นลม
          นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากอากาศที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้ นอกจากจะเสี่ยงเป็นโรคไข้หวัดแล้ว ยังมีโรคที่ต้องระวังในช่วงฤดูร้อน คือ โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ทั้งอาหารเป็นพิษ อุจจาระร่วง โดย เฉพาะเด็กๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากช่วงปิดภาคเรียน อาจมีกิจกรรมรวมกลุ่มกันมากขึ้น เช่น ไปออกค่าย ทำกิจกรรมต่างๆ อาจมีการรับประทานอาหารที่ค้างคืน หรือปรุงไม่สะอาดพอ