|
|
|
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 09/02/2561 ] |
|
|
|
|
เปิดหลักเกณฑ์ หมอพื้นบ้าน ข้อปฏิบัติเพื่อคนไข้แบบธรรมจรรยา |
|
|
|
|
ในที่สุด กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็ออกใบรับรองให้ "หมอแสง" หรือ นายแสงชัย แหเลิศตระกูล เจ้าของสูตรสมุนไพรบำบัดมะเร็ง เป็น "หมอพื้นบ้าน" ทันทีที่นายแสงชัยส่งเอกสารยืนยันคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์
ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนของหมอแสง โดยเฉพาะการได้รับการยอมรับจากคนในชุมชนไม่น้อยกว่า 10 คน และการยอมรับจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ จึงไม่แปลกที่วันนี้ หมอแสงจะได้รับการกล่าวขานให้เป็นหมอพื้นบ้าน
แต่ประเด็นคือ เป็นการออกใบรับรองหลังจากเกิดปมดราม่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายแสงชัยให้สัมภาษณ์เชิงตัดพ้อต่อว่า หากกรมการแพทย์แผนไทยฯไม่ออกใบรับรองให้ภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ จะเลิกผลิตและเลิกแจกจ่ายแคปซูลสมุนไพรที่อ้างว่าบำบัดมะเร็งได้ จนทำให้เพจคนรักหมอแสง ออกมาตำหนิกรมการแพทย์แผนไทยฯ และระดมพลหาคนรักหมอแสง เพื่อรวมตัวกันเรียกร้อง อ้างว่าเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยมะเร็งเสียโอกาสจากการไม่ได้ทดลองใช้สูตรสมุนไพรนี้
เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับหมอพื้นบ้าน ล่าสุด นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ อธิบายว่า การออกใบรับรองดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของกรม ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองหมอ พื้นบ้าน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2555 ที่ระบุว่า การออกหนังสือรับรองหมอพื้นบ้าน เกิดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและยกระดับหมอพื้นบ้านที่มีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของประชาชน ในท้องถิ่นเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี ด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยหรือการแพทย์พื้นบ้าน ตามวัฒนธรรมของชุมชนสืบทอดกันมานาน
ซึ่งหลักเกณฑ์ในการคัดกรองหมอพื้นบ้าน ประกอบด้วย 8 ข้อ คือ 1.มีผู้มารับบริการสม่ำเสมอและต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี ดูแลสุขภาพในชุมชน หรืออยู่ ณ ที่ตั้ง ไม่เร่ขาย ไม่ได้ดำเนินการในรูปแบบสถานพยาบาล และมีหลักฐานบันทึกผู้รับบริการอย่างสม่ำเสมอ 2.สืบทอดความรู้จากบรรพบุรุษหรือองค์ความรู้จากท้องถิ่น ตามวิถีวัฒนธรรมหรือตามอัธยาศัย ตามหลักการแพทย์ดั้งเดิม 3.มีความสามารถในการบำบัดโรค รู้จักโรค รู้จักยา รู้วิธีรักษา รู้จักการดูแลสุขภาพและแนะนำผู้อื่นได้ 4.ไม่หวงวิชา มีผู้รับสืบทอดความรู้และถ่ายทอดวิชาด้วยความเมตตา (ไม่ใช่การรับมอบตัวศิษย์ที่มีค่าธรรมเนียม) 5.มีการถ่ายทอดความรู้ มีบทบาทในการถ่ายทอดความรู้ ในฐานะครูภูมิปัญญา วิทยากร งานพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบาน เป็นต้น 6.ไม่เรียกร้องค่ารักษาเกินควร ไม่ดำเนินการเชิงธุรกิจหรือพาณิชย์ ไม่โฆษณา ไม่เรียกเก็บค่ารักษามากเกินควร 7.เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากคนในชุมชน หมอพื้นบ้านที่เป็นที่พึ่งในชุมชน ย่อมมีคนรู้จักในฐานะหมอพื้นบ้านและให้การยอมรับนับถือ และ 8.มีคุณธรรม มีความเมตตา มีบทบาทช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชน และไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2552
สำหรับขั้นตอนการขอหนังสือรับรองหมอพื้นบ้านนั้น อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ หรือนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ในเขตจังหวัดที่รับผิดชอบ มีหน้าที่ตรวจสอบความเหมาะสม และออกหนังสือรับรองหมอพื้นบ้านให้ โดยพิจารณาตามเกณฑ์เงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งจะมีการตรวจสอบ เมื่อมีการยื่นคำขอรับหนังสือรับรองดังกล่าว โดยต้องมีเอกสารหลักฐานแนบคำขอ จำนวน 7 ฉบับ ประกอบด้วย รายละเอียดการเป็นหมอพื้นบ้าน หนังสือรับรองจากประชาชนในหมู่บ้าน 10 คน หนังสือรับรองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หนังสือรับรองจากหน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐระดับปฐมภูมิ อาทิ รพ.สต. สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน รูปถ่าย 1 นิ้ว จำนวน 2 ใบ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ย้ำว่า แม้จะได้รับใบรับรองเป็นหมอพื้นบ้านแล้ว แต่หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขก็มีสิทธิถูกถอดถอนได้ ที่สำคัญหมอพื้นบ้านไม่ใช่แพทย์ เพราะไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ จึงต้องย้อนกลับไปดูหลักเกณฑ์ข้อบังคับในการปฏิบัติงานทั้ง 8 ข้อ โดยเฉพาะการโฆษณา
การกระทำเชิงพาณิชย์ห้ามเด็ดขาด จึงต้องยึดหลักธรรมจรรยาเป็นดีที่สุด |
| | |
|
| |
|
pageview 1204508 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |