เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงปัญหาหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยบางพื้นที่ กทม.ที่เกินค่ามาตรฐานสูงกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตฟร (มคก./ลบ.ม.) ว่า เรื่องหมอกควันในขณะนี้ไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวลมากเกินไป ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่มีการชี้แจงไปแล้วเกี่ยวกับค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพราะฉะนั้นต้องมีมาตรการป้องกันตัวเอง หลายคนใส่หน้ากากปิดปากปิดจมูกป้องกันตัวเองไว้ก่อนก็ดี แต่รัฐบาลต้องหามาตรการออกมา โดยกำลังให้ทำในเรื่องฝนเทียมให้ตกลงมาเพื่อลดฝุ่นละออง
          "ปัญหาไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยอย่างเดียว ทุกประเทศมีปัญหาคล้ายกันในเรื่องฝุ่นละอองหมอกควันในเมืองใหญ่เหมือนกัน ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันลดฝุ่นละอองเหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการต่างๆ ก็มีส่วนหนึ่ง การเผาไฟ ซังข้าวตอข้าว มันก็เป็นปัญหาหมอกควันอยู่ตลอด ผมได้กำชับให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ติดตามแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง และหามาตรการในการที่จะลดฝุ่นละออง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
          นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และโฆษก สธ.เปิดเผยว่า นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการ สธ.สั่งการให้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์และประชาชนที่อาจได้รับผล กระทบจากโรคทางเดินหายใจจากฝุ่นละออง ซึ่งได้รับรายงานจาก คพ.ว่ายังพบค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานใน 6 จุด คือ สถานีตรวจวัดริมถนนอินทรพิทักษ์ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง, ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ, เขตธนบุรี, ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง แขวงพลับพลา ในส่วนของสถานการณ์ผู้ป่วย จากการเฝ้าระวังของโรงพยาบาลในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน มีรายงานผู้ป่วยโรคตาแดงมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ไม่พบผู้ที่มีอาการรุนแรงหรือผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนหรือการเสียชีวิต โรคไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มลดลง และโรคปอดอักเสบแนวโน้มคงที่