นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศว่า ในช่วงนี้ ประเทศ ไทยมีอากาศหนาวอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงและจะลดลงอีก ประชาชนอาจเจ็บป่วยง่ายขึ้นจากโรคที่พบบ่อยเช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม อุจจาระร่วง หัด หัดเยอรมัน อีสุกอีใส เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ร่างกายมีภูมิต้านทานน้อย ส่งผลให้เมื่อเจ็บป่วยแล้วมีอาการรุนแรงกว่าปกติ
          ปี 2560 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 189,870 ราย เสียชีวิต 54 ราย ปอดบวม 251,792 ราย เสียชีวิต 248 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก จึงได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) ทุกจังหวัด เฝ้าระวังโรคและออกให้ความรู้ประชาชนในการดูแลสุขภาพ
          ส่วนความเชื่อเรื่องการดื่มสุราจะช่วยแก้หนาวได้นั้น นพ.เจษฎากล่าวว่า ไม่เป็นความจริงและเป็นเรื่องที่อันตราย โดยช่วงแรกหลังดื่มสุราจะรู้สึกร้อนวูบวาบ ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ผลที่ตามมาที่คิดไม่ถึงคือร่างกายจะสูญเสียความร้อนและน้ำออกทางผิวหนังอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลง หากดื่มเข้าไปมากแอลกอฮอล์จะออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้เมาหลับไป อาจเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำได้ ซึ่งพบในผู้ที่มีประวัติดื่มสุราเป็นประจำเกือบทุกปี
          นพ.เจษฎากล่าวอีกว่า ขณะที่ประชาชนที่ไปเที่ยวกางเต็นท์ ก็ไม่ควรผิงไฟ โดยจุดเตาถ่านหรือตะเกียงน้ำมันก๊าดให้ความอบอุ่นในเต็นท์ เนื่องจากในควันไฟจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ทำให้ขาดออกซิเจนไปเลี้ยง โดยเฉพาะสมอง ทำให้เกิดอาการง่วง หลับโดยไม่รู้ตัว และเสียชีวิตได้