|
|
|
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 15/12/2560 ] |
|
|
|
|
สูงวัยไทยป่วย ความดันโลหิตสูง เพิ่มขึ้น |
|
|
|
|
จากข้อมูลองค์การอนามัยโลกหรือฮู พบว่า 1 ใน 3 ของผู้ใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ป่วยเป็นภาวะความดันโลหิตสูง และภายในปี 2568 คาดว่าความชุกของภาวะความดันโลหิตสูงจะเพิ่มขึ้นถึง 1.56 พันล้านคนทั่วโลก โดยในสัดส่วนของประเทศไทยนั้น พบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงกว่า 1.6 ล้านคน จากผู้สูงอายุทั้งหมด 10 ล้านคน ภาวะความดันโลหิตสูง คือปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองที่สามารถคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกเป็นจำนวนมากทุกปี และปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุของภาวะความดันโลหิตสูง เกิดจากสาเหตุหลายปัจจัย ตั้งแต่สภาพแวดล้อม พฤติกรรมส่วนตัว เช่น การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารรสเค็มจัด หวานจัด มันจัด นอกจากนี้การทำงานอยู่ภายใต้ความเครียดตลอดเวลา การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ การขาดการออกกำลังกาย ยังเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
ความดันโลหิตสูงเปรียบเสมือนภัยเงียบที่ไม่แสดงอาการเจ็บป่วย หากไม่ได้ตรวจวัดความดันโลหิต แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีอาการมักจะพบแพทย์ด้วยภาวะวิงเวียนศีรษะ มีเลือดกำเดาไหล แน่นหน้าอก หอบหายใจเร็ว มือเท้าชา หรืออาการอื่นๆ ร่วมด้วย ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคความดันโลหิตสูง หากไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิตได้จะส่งผลทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะสำคัญต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่ สมอง หัวใจ หลอดเลือด ตา และไต โดยอาการที่เกิดกับอวัยวะต่างๆ มีดังนี้
1.สมอง ความดันโลหิตสูงจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือหลอดเลือดในสมองแตก มีเลือดออกในเนื้อสมอง ส่งผลให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต หากพบอาการปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง ต้องรีบมาโรงพยาบาลภายใน 1 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้เสียชีวิตหรือทำให้เลือดออกในสมองรุนแรงได้
2.หัวใจ ความดันโลหิตสูงจะมีผลต่อหัวใจ 2 ทาง คือ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจโตและหลอดเลือดหัวใจหนาตัวและแข็งตัวขึ้น เกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน อาจจะมีอาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด เหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้จากหัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดปกติ ใจสั่นและอาจเสียชีวิต หากมีอาการดังกล่าวควรนั่งพัก 3-5 นาที หากอาการยังไม่ดีขึ้นต้องรีบพบแพทย์ทันที
3.หลอดเลือด ความดันโลหิตสูงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย ทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบ หรือหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง อาจเกิดการฉีกขาด เจ็บหน้าอกร้าวไปยังหลังอย่างรุนแรง หรือเสียชีวิตเฉียบพลันได้
4.ตา ความดันโลหิตสูงมีผลต่อหลอดเลือดที่ตา เช่น เลือดออกที่จอประสาทตา หลอดเลือดเล็กที่จอประสาทตาอุดตัน หรือจอประสาทตาหลุดลอกออกได้ ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใดๆ หรืออาจมีอาการตามัว จนถึงตาบอดได้
5.ไต ความดันโลหิตสูงมีผลต่อหลอดเลือดที่ไต ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตไม่เพียงพอ ไตเสื่อมสมรรถภาพและอาจทำให้เกิดไตวายเรื้อรัง อาการของภาวะไตวายเรื้อรัง คือ ขาบวมตอนเช้าหลังตื่นนอน มีอาการอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีแรงจากภาวะซีด หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึมลงในผู้ป่วยไตวายระยะท้ายๆดังนั้นจะเห็นได้ว่าหากละเลยการรักษาความดันโลหิตสูงอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ ฉะนั้นจึงควรได้รับการรักษาและแนะนำอย่างถูกต้อง เมื่อพบภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งความดันโลหิตสูงสามารถควบคุมหรือป้องกันให้อยู่ภาวะปกติได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการกินยาลดความดันโลหิตสูง อาหารที่มีผลต่อความดันโลหิต เช่น อาหารประเภทที่มีโซเดียมสูง ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง จึงควรลดการรับประทานอาหารผ่านกระบวนการอาหารสำเร็จรูป อาหารหมักดอง อาหารกระป๋องและอาหารขยะ (Junk Food)
นอกจากนี้แล้วอาหารประเภทที่มีไขมันและน้ำตาลสูงก็มีความเสี่ยงทำให้เกิดหลอดเลือดเสื่อมลงได้ จึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ที่ไม่หวาน ลดอาหารที่ปรุงแต่ง อาหารรสจัด หลีกเลี่ยงอาหารทอด รวมไปถึงการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดการสูบบุหรี่ และหมั่นออกกำลังการ พร้อมกับตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ก็จะทำให้สุขภาพร่างกายของผู้สูงวัยไทยสามารถห่างไกล "โรคความดันโลหิตสูง" ได้
นพ.สุทัศน์ คันติโต
แพทย์สถาบันหัวใจและหลอดเลือด
โรงพยาบาลพระรามเก้า |
| | |
|
| |
|
pageview 1205142 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |