หมอปิยะสกลชี้งบประมาณของประเทศมีจำกัด แต่บัตรทองและสิทธิประโยชน์ปี 61 ได้เพิ่มขึ้นเพียง 500 ล้าน มีผลต้องชะลอบางโครงการ ปลัด สธ.เผยปัญหาขาดสภาพคล่องของ รพ.ดีขึ้น แต่หวั่นเกิดปัญหาอีกในช่วงไตรมาสที่ 3 เปิดทาง รพ.เปิดคลินิกนอกเวลาเพื่อหารายได้เข้า รพ.
          วันที่ 14 ก.พ. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงงบบัตรทองปี 2561 ที่สำนักงบประมาณต่อรองเหลือ 128,533 ล้านบาท แต่ให้เพิ่มงบสิทธิพิเศษ 3 โครงการ จำนวน 500 ล้านบาท ว่า เนื่องจากงบประมาณของประเทศที่มีจำกัด ส่งผลให้เรื่องของงบนั้นไม่พอ แต่ก็ต้องช่วยกันใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่างบที่ได้รับมา รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ นั้นเพิ่มขึ้น ไม่ได้ลดลง แต่ก็ต้องมีการชะลอบางโครงการที่เตรียมเอาไว้เหมือนกัน เพียงแต่บอกว่าหากจำเป็นต้องใช้ก็สามารถของบประมาณกลางปีได้ ซึ่งคิดว่าปีนี้น่าจะมีการขอ ทั้งนี้ จะไม่มีการนำเงินส่วนอื่นมาใช้ เพราะหากนำมาส่วนอื่นก็จะได้น้อย ดังนั้นต้องให้ทุกส่วนสมดุลกันเพื่อผลประโยชน์สูงสุดตกอยู่ที่ประชาชน
          นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาขาดสภาพคล่องของโรงพยาบาลในสังกัด สธ.ดีขึ้น เป็นผลจากการวางแผนบริหารจัดการความเสี่ยง เรื่องของการใช้งบประมาณทั้งรายรับ รายจ่าย เรื่องการจัดซื้อยาต่างๆ รวมถึงการจ้างคนให้มีความเหมาะสม เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ปี 2561 ที่สำนักงบประมาณให้มานั้น รมว.สาธารณสุขก็บอกว่าอยู่ไม่ได้ และที่ให้มาเพิ่มอีก 500 ล้านบาท ก็ต้องมาดูว่าจะพอหรือไม่ อยู่ที่ว่าสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะต้องต่อรองเพิ่มเติมจากส่วนอื่นหรือไม่ ก็ต้องดูสถานการณ์ทางการเงินของโรงพยาบาลต่อไป ซึ่งเราดูทุกๆ 3 เดือนอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีปัญหาในไตรมาสที่ 3 เช่น เรื่องการหักเงินเดือนข้าราชการลงนั้น ก็มีการหารือกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุป เพราะถ้าหักน้อยลงก็จะมีเงินเข้าโรงพยาบาลมากขึ้น
          นพ.โสภณกล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการโรงพยาบาลต้องหารายได้เข้าโรงพยาบาลได้ด้วยนั้น ขณะนี้ระเบียบเรื่องการอนุญาตให้มีการเปิดคลินิกนอกเวลาออกมาแล้ว มีการกำหนดอัตราค่ารักษา เช่น ค่าแพทย์ออกตรวจ 200 บาท หรือมีค่าอื่น เป็นต้น เพื่อให้มีรายได้บ้าง และให้บริการสำหรับประชาชนที่มีศักยภาพในการจ่าย แต่คลินิกในเวลาก็ยังมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกโรงพยาบาลจะสามารถเปิดคลินิกนอกเวลาได้ ทางโรงพยาบาลต้องทำประชาพิจารณ์ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ว่าจะให้มีหรือไม่
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูล สปสช.ได้ของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวบัตรทองปี 2561 จำนวน 141,916 ล้านบาท สำนักงบฯ ปรับลดเหลือ 128,533 ล้านบาท หรือลดไปกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ย 274 บาทต่อประชากร และจากการหารือร่วมกันอีกครั้งเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักงบฯ จะมีเพิ่มเติมงบประมาณในสิทธิประโยชน์ใหม่ 3 รายการ คือ 1.การคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ใน กลุ่มเสี่ยง อายุ 50 ปีขึ้นไป 2.วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ปากมดลูก และ 3.ค่าบริการสาธารณสุขกรณีเจ็บ ป่วยฉุกเฉิน ประมาณ 500 ล้านบาท.