HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 18/04/2555 ]
จับ'จนท.คลังยา'ฉก'ซูโด'สธ.สั่งเด้ง3ผอ.-2 เภสัช

'สธ.'สั่งเด้ง 3 ผอ.-2 เภสัช ช่วยงานส่วนกลางเพิ่มคดี'ซูโด'หาย พร้อมให้ข้อมูลดีเอสไอ 2 ประเด็นจับอีก'จนท.คลังยา'รพ.เซ็นทรัลฯ
          เมื่อเวลา14.00 น. วันที่ 17 เมษายน พล.ต.ต.วัฒนา สักกวัตร พล.ต.ต.บุญมี สมสุข พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.สส.ภ.5 พร้อมนายวิชัย ไชยมงคล ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.พิชญ์สิณี ประเสริฐศรี ชื่อเดิมน.ส.ฐิฎาภรณ์ คำป่ก หรือ ชมพู่ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่คลังเวชภัณฑ์ แผนกเภสัชกรรม โรงพยาบาลเซ็นทรัลเมโมเรียล จ.เชียงใหม่ ข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างและปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม หลังจากขโมยยาซูโดอีเฟ ดรีนจากโรงพยาบาลดังกล่าวไปขายต่อ
          จากการสอบสวนทราบว่าระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน 2554 น.ส.พิชญ์สิณีขโมยยาซูโดอีเฟดรีนจากคลังยาโรงพยาบาลส่งขายติดต่อกันหลายครั้งรวมกว่า 5,000 เม็ด ขณะเดียวกันยังปลอมแปลงแบบคำขอซื้อยาซูโดอีเฟดรีนก่อนส่งใบสั่งซื้อไปยังตัวแทนจำหน่ายยารวมแล้วกว่า 370,000 เม็ด โดยนำยาที่ได้ไปจำหน่ายต่ออีกทอดหนึ่ง โดยไม่ได้เข้าระบบบัญชียาโรงพยาบาล
          พล.ต.ต.ชำนาญกล่าวว่า น.ส.วรัญญา เลี้ยงลักษณ์เลิศ ผอ.โรงพยาบาลเซ็นทรัลฯ มอบอำนาจให้ตัวแทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท. โทสวัสดิ์ หล้ากาศ รอง ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เนื่องจากยาซูโดหายไปจากคลังยากระทั่งศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุมัติหมายจับกุม น.ส.พิชญ์สิณี จากการขยายผลพบว่ายังมีผู้ร่วมกระทำผิด มีทั้งเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล และตัวแทนจำหน่ายยา อีก 2-3 คน ซึ่งกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม
          น.ส.วรัญญากล่าวว่า จากการตรวจสอบของโรงพยาบาลพบว่ามีการเบิกจ่ายยาให้คนไข้จริงเพียง 447 เม็ด โดยยาหายไปจากระบบถึง 5,000 เม็ด ผู้เบิกยาคือ น.ส.พิชญ์สิณี นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงเอกสารสั่งซื้อยาจากบริษัทยา 2 แห่ง อีกหลายครั้งรวม 370,000 เม็ด โดยมีตัวแทนยาโอนเงินเข้าบริษัทตัวเอง
          วันเดียวกัน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในวันที่ 18 เมษายนนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เชิญผู้แทนของสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเบิกจ่ายยาสูตรผสมซูโด อีเฟดรีนในโรงพยาบาลสังกัด สธ.ทั้งหมด ซึ่งมอบให้ นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัด สธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนกลาง กรณีปัญหายาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนหาย เป็นผู้ให้ข้อมูลกับดีเอสไอ "ล่าสุด นพ.โสภณรายงานว่า มีหนังสือตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องใน 3 โรงพยาบาลเข้ามาทำงานในส่วนกลาง ประกอบด้วย ผู้อำนวยการ (ผอ.) และหัวหน้าเภสัชกร รพ.อุดรธานี, ผอ.และเภสัชกร รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และ ผอ.รพ.เสริมงาม จ.ลำปาง ในส่วนการสอบสวนวินัย ผอ.และหัวหน้าเภสัชกร รพ.อุดรธานี เบื้องต้นเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง แต่หากตรวจสอบเชิงลึกและปรากฏว่าเกี่ยวข้องสามารถเป็นความผิดวินัยร้ายแรงได้" นพ.ไพจิตร์กล่าว
          ด้าน นพ.โสภณกล่าวว่า สำหรับ รพ.อุดรธานี อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากสั่งยาปีละ 600 ล้านบาท ถือว่าสูงมาก จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง สำหรับภาพรวมผู้เกี่ยวข้องและมีหนังสือจากปลัด สธ.ให้เข้ามาทำงานส่วนกลาง เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบทั้งความผิดวินัยร้ายแรงและไม่ร้ายแรงมีทั้งหมด 14 ราย ใน 8 โรงพยาบาล
          "ประกอบด้วย 1.ผอ.รพ.อุดรธานี 2.หัวหน้าเภสัชกร รพ.อุดรธานี 3.ผอ.รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ 4.เภสัชกร รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ 5.ผอ.รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ 6.เภสัชกร รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ 7.เจ้าพนักงานเภสัชกร รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ 8.ผอ.รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ 9.เภสัชกร รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ 10.เจ้าพนักงานเภสัชกร รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ 11.เภสัชกร รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ 12.ผอ.รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ 13.เภสัชกร รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และ 14.ผอ.รพ.เสริมงาม จ.ลำปาง" นพ.โสภณกล่าว และว่า สำหรับข้อมูลที่จะให้ดีเอสไอนั้นมี 2 ประเด็น คือ 1.แนวทางการควบคุมการเบิกจ่ายยาของ สธ. และ สำหรับข้อมูลที่จะให้ดีเอสไอนั้นมี 2 ประเด็น คือ 1.แนวทางการควบคุมการเบิกจ่ายยาของ สธ. และ 2.ปัญหายาหายออกไปได้อย่างไร
          นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในวันที่ 18 เมษายน เวลา 10.00 น. รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีที่เกี่ยวข้อง จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามหมายเรียกกรณียาแก้หวัดที่มีสารซูโดอีเฟดรีนหายไปจากระบบ
          ขณะที่โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท จ.ปัตตานี นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 5 จังหวัด, เลขาฯ ป.ป.ส., เลขาฯ ศอ.บต.และ ผบช.ศชต. ร่วมกิจกรรมรวมพลังผู้นำศาสนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ป้องกันยาเสพติด โดยมีผู้นำศาสนาเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน พร้อมทั้งมีพิธีลงปฏิญญาร่วมกันระหว่างภาครัฐและผู้นำศาสนา ในการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นโครงการที่จุฬาราชมนตรี ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 ดำเนินงานตั้งแต่ ปี 2553 ในชื่อโครงการญาลันนันบารู และโครงการมัสยิดสานใจป้องกันยาเสพติด  "จากความร่วมมือของผู้นำศาสนาสามารถช่วยเหลือ ทั้งการแก้ไขและการป้องกันให้ครอบครัวปลอดภัยจากยาเสพติดได้จำนวนมาก โดยใช้หลักศาสนาเข้าบำบัด ปัจจุบันมีมัสยิดเข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 มัสยิด  และเป้าหมายผู้ติดยาเสพติดที่ต้องเข้าบำบัดในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้มีจำนวน 22,000 คน อายุ 11-20 ปี ที่เป็นกลุ่มเยาวชนและว่างงาน"


pageview  1205104    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved