ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ น.พ.กฤษกร สุขวัฒน์วิบูลย์จิตแพทย์ด้านสุราและยาเสพติด โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่าจะมียาเสพติดระบาดเพิ่มขึ้นในหมู่วัยรุ่น เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสนุกสนาน อาจมีการดื่มแอลกอฮอล์ และใช้สารเสพติด ซึ่งทำให้เกิดความมึนเมา ประสาทหลอน ขาดสติ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จนทำอะไรลงไปโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ เช่น วัยรุ่นชายอาจเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือวัยรุ่นหญิงอาจคึกคะนองถอดเสื้อผ้าเต้นเปลือยกาย บางครั้งอาจโดนล่อลวงไปข่มขืน
น.พ.กฤษกรขยายความว่าวัยรุ่นเป็นวัยที่คึกคะนองเวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูงต้องการยอมรับจากเพื่อนๆอิทธิพลของกลุ่มจะมีผลต่อความคิดและการตัดสินใจของวัยรุ่น ยิ่งการดื่มสุราทำให้ขาดสติยับยั้งชั่งใจ บวกกับต้อง การสนุกสนานเพิ่มเติม จึงใช้สารเสพติดหลายชนิดร่วมกัน เช่น ยาไอซ์ ยาอี โคเคน กัญชา หรือยานอนหลับชนิดต่างๆ
หากพบว่าลูกเมาสุราหรือใช้สารเสพติด ควรรอให้อาการหงุด หงิดหรืออาการเมายาของลูกสร่างก่อนจึงค่อยพูดจากันดีๆ ไม่ดุด่า แต่รับฟังถึงปัญหาและสาเหตุของการเสพสารเสพติด พูดคุยกับลูกแบบตรงไปตรงมา เปิดโอกาสให้ลูกอธิบายว่าเพราะอะไรเขาถึงไปดื่มหรือเสพเพื่อจะได้เข้าใจสาเหตุจะได้สอนหรืออธิบายช่วยกันหาทางแก้ไขป้องกัน เพราะการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือด้านร่างกายไม่เกิดประโยชน์อะไร
แต่ถ้าในกรณีที่ลูกยังอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของสารเสพติดแล้วมีอาการรุนแรง อาละวาด วุ่นวาย ทุบตี หรือทำร้ายคนรอบข้าง ควรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อระงับเหตุและรีบพามาบำบัดรักษาโดยเร็ว
การพูดคุยรับฟังกันในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมาก บางครอบครัวทำงานหนัก พอถึงบ้านแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย ช่วงวันหยุดเทศกาลเป็นโอกาสดีที่จะได้คุยกัน รับฟังกัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเพิ่มความผูกพันกันในครอบครัว
"ถ้าเป็นไปได้ในช่วงเทศกาล ครอบครัวน่าจะได้อยู่เฉลิมฉลองกันภายในครอบครัว หรือถ้าบุตรหลานจะออกไปกับเพื่อนๆต้องสอนให้พวกเขาทราบถึงอันตรายของสุรายาเสพติดเพื่อจะได้ระมัดระวัง"
จิตแพทย์ให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันวัยรุ่นไทยเข้าถึงยาเสพติดได้ง่ายมาก เพราะมีทุกที่ทุกจังหวัด บางครั้งวัยรุ่นบอกว่าแค่เดินออกไปปากซอยก็หาซื้อได้แล้ว
พ่อแม่ควรหมั่นสังเกตและดูพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิมของลูก เช่น แต่เดิมเคยสนุกสนานร่าเริง กลับกลายเป็นไม่พูด ไม่สุงสิงกับใคร เก็บตัวเงียบ การเรียนตก หรือมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่น ไม่นอนกลางคืน เดินไปมา หรือพูดคนเดียว อาจเป็นไปได้ว่าเป็นผลกระทบจากฤทธิ์ของสารเสพติด
ปัจจุบันการบำบัดรักษาแบ่งออกได้ 2 ขั้นตอน คือการบำบัดรักษาด้วยยาเพื่อบรรเทาอาการหรือผลข้างเคียงที่เกิดจากฤทธิ์ของสุรายาเสพติดจากนั้นพูดคุยถึงสาเหตุ ปัญหาที่ทำให้ผู้ป่วยไปพึ่งพิงสุรายาเสพติด สร้างแรงจูงใจในการบำบัดรักษา อาจมีเรื่องของการปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้ทราบถึงข้อเสียของการใช้สารเสพติด มีการปรับพฤติกรรม รวมถึงการให้ครอบครัวมีส่วนร่วมบำบัดรักษาด้วยอีกทางหนึ่ง
สำหรับผู้ที่ต้องการรับคำแนะนำและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการเลิกยาเสพติด ติดต่อแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลมนารมย์เพื่อนัดหมายได้ที่โทร.0-2725-9595 หรือ www.manarom.com
--จบ--