เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ม.ล.ปนัดดาดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน(PM10) ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว แต่ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ และถือว่าเป็นวาระของ จ.เชียงใหม่ ที่จะต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน เพื่อไม่ให้ปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันลุกลาม
"เนื่องจากหลายจังหวัดค่าฝุ่นละอองยังสูงกว่าเกณฑ์ และเชื่อมโยงไปทุกพื้นที่รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน จึงจะถือโอากสหารือและขอความร่วมมือนอกรอบกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด ที่จะเดินทางมาร่วมงานทูบีนัมเบอร์วัน ช่วยกันสกัดหมอกควันไม่ให้ลุกลามไปทั่วภาคเหนือ" ม.ล.ปนัดดากล่าว
ม.ล.ปนัดดากล่าวด้วยว่า ได้มีคำสั่งลงไปยังทุกอำเภอให้แบ่งจุดรับผิดชอบหรือทำโซนนิ่งเพื่อเอาจริงเอาจังและรับผิดชอบกับการเผาของประชาชน ติดตามผลการดำเนินงานหากพื้นที่ใดสามารถหยุดการเผาได้ทั้งหมด ถือว่าประสบความสำเร็จก็จะมีการประเมินผลและให้รางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่คนทำงานในพื้นที่นั้นๆ เท่าที่ตรวจสอบจุดการเกิดความร้อน(Hotspot) ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกิดใหม่ ที่พบการเผามากขึ้น
ด้านนายทรง กลิ่นประทุม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เผยว่า จากสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคเหนือ ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงฯ กำลังขออนุมัติเปิดหน่วยปฏิบัติการทำฝนหลวง โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ แต่ยังมีข้อต้องระมัดระวังคือ เขตภาคเหนือตอนบนขณะนี้มีเกษตรกรหลายพื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิตหอมกระเทียมยังไม่แล้วเสร็จ