เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายวิทยา บุรณศิริรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพ 3 ระบบรักษาพยาบาล ประกอบด้วยระบบประกันสังคม ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า จากการหารือร่วมทั้ง 3 ระบบ มีมติว่า เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการขั้นพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน ซึ่งเริ่มจากการบริการกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน โดยประชาชนที่เข้ามารับการรักษาจะได้ไม่ต้องถูกถามว่าอยู่กองทุนใด เพราะบางครั้งผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินไม่สามารถรอได้ว่าต้องเบิกค่ารักษาพยาบาลที่กองทุนใดแต่จะต้องพบแพทย์ให้เร็วที่สุด และไม่ต้องถามว่ามีเงินจ่ายหรือไม่ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของการทำงานเรื่องนี้
          "สำหรับการอนุมัติค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินให้สามารถเบิกจ่ายได้เท่ากันที่ 10,500 บาทต่อครั้ง และครอบคลุมโรคเพิ่มเติม ได้แก่ เอดส์ ไตวาย เบาหวาน และความดันสูง เท่ากันทั้ง 3 กองทุน จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ สามารถเข้ารับบริการได้ในโรงพยาบาลทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นเครือข่าย โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว"นายวิทยากล่าว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการรักษาที่ไม่เข้าข่ายและต้องยกเว้น 4 กรณี คือ การเสริมความงาม การผสมเทียม การรักษาเกินความจำเป็น และการรักษาไม่ไปเป็นตามแพทย์ระบุ