เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ นายยงยุทธวิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมมือกันแก้ปัญหา โดยจะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบปัญหาวิกฤตหมอกควันผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ วันที่ 1 มีนาคม เพื่อบูรณาการความร่วมมือ และเชื่อมโยงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควัน
          วันเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือว่าพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 60.7-295.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบทุกสถานีโดยเฉพาะเชียงราย พะเยา ลำปาง และแพร่พบฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ล่าสุดจ.เชียงใหม่ ตรวจวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองที่สถานีตรวจวัดโรงรียนยุพราชวิทยาลัย อ.เมืองได้ 88.44 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ส่วนจ.เชียงราย 213 ไมโครกรัม/ลบ.ม. จ.พะเยา191.08 ไมโครกรัม/ลบ.ม. จ.ลำปาง 182.79 ไมโครกรัม/ลบ.ม. และ จ.แพร่ 135.92 ไมโครกรัม/ลบ.ม. 
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้สภาพอากาศในจ.เชียงใหม่ จะดีขึ้น ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กลดต่ำกว่าค่ามาตรฐานจนสามารถมองเห็นพระธาตุดอยสุเทพและตัวเมืองได้แต่ท้องฟ้ายังไม่สดใส ชั้นบรรยากาศยังคงเป็นสีเทาหม่นเพราะหมอกควันปกคลุมจำนวนมาก
          ที่ จ.แพร่ เกิดไฟป่าในหลายพื้นที่ ทหารจากค่ายพระยาไชยบูรณ์ ม.พัน 12 ส่งกำลังเสริมช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ที่ จ.ลำปางสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้ง 3 แห่งเกินค่ามาตรฐาน ส่วนที่ จ.พะเยา หลังระดมรถน้ำออกฉีดพ่นในอากาศ ทำให้ค่าฝุ่นละอองในอากาศวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ลดลงจาก278 ไมโครกรัม/ลบ.ม. เหลือเพียง 138.96 ไมโครกรัม/ลบ.ม.