เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสภาพอากาศร้อนที่หลายคนกังวลว่าจะมีผลต่อความเจ็บป่วยทางจิต ว่า อากาศร้อนหรือหนาวไม่มีผลทางตรงแต่เป็นผลทางอ้อม อากาศร้อนเป็นตัวกระตุ้นหรือเพิ่มความเครียดมากกว่า เช่น ถ้าคนมีความเครียดในเรื่องการเงิน การทำงาน ครอบครัว เมื่อมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีอากาศร้อนย่อมเพิ่มความเครียดจนอาจเกิดกระทบกระทั่ง ทะเลาะเบาะแว้งและเกิดความรุนแรงขึ้นได้ในที่สุด เนื่องจากความเครียดรุนแรงจะทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี พฤติกรรมที่แสดงออกมาอาจเป็นได้ทั้งการใช้อาวุธ การใช้วาจารุนแรง หรือการทำร้ายร่างกาย
          หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สำหรับข้อแนะนำ ต้องรู้ว่าตัวเองมีความเครียดอยู่แล้วหรือไม่ โดยสังเกตได้จากการเริ่มมีอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ อาการทางจิตใจ เช่น ว้าวุ้น สมาธิไม่ค่อยดี ถ้ามีอาการเหล่านี้อยู่แสดงว่ามีความเครียดให้ลองทำแบบทดสอบความเครียดของกรมสุขภาพจิตดูว่ามีความเครียดมากน้อยเพียงใดและควรจัดการอย่างไร ทั้งนี้ หากรู้ตัวเองว่ามีความเครียด ก็จำเป็นต้องหาทางจัดการความเครียดซึ่งมี 2 วิธี คือ 1.ลดความเครียด และ 2.ป้องกันความเครียดใหม่ๆ การลดความเครียด ปฏิบัติได้ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การออกกำลังกาย ทำสมาธิ โยคะ ทำงานอดิเรก หรือปลูกต้นไม้ เป็นต้น ซึ่งมีหลักฐานว่าช่วยลดความเครียดได้ นอกจากนี้ ยังสามารถฝึกคลายเครียดด้วยวิธีที่กรมสุขภาพจิตแนะนำ ได้แก่ การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การฝึกหายใจคลายเครียด เป็นต้น
          นพ.ยงยุทธกล่าวว่า ส่วนการป้องกันความเครียด เช่น การบริหารเวลาให้ดี การบริหารจัดการเวลาไม่ดียิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มมากขึ้น เช่น ออกจากบ้านให้เช้าขึ้นจะได้ไม่ต้องเครียดกับรถติดบนท้องถนนหรือการเรียงลำดับความสำคัญของงาน ไม่เก็บไว้จนกลับมาเป็นปัญหาทีหลัง นอกจากนี้ ก็ต้องบริหารการเงินให้ดีด้วย เช่น หาแนวทางเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่ายซึ่งจะช่วยให้ความเครียดลดน้อยลงได้ เพราะปัญหาการเงินเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เกิดความเครียด รวมทั้งฝึกคิดทางบวก