ผลวิจัยของทีมวิจัยจากประเทศอังกฤษ ตีพิมพ์ลงในวารสารเอ็นโดครายน์ รีเสิร์ช เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าปริมาณวิตามินดีระดับสูง ในมดลูกของหญิงตั้งครรภ์ มีความเชื่อมโยงกับ พัฒนาการของกล้ามเนื้อเด็กที่ดีขึ้น
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาท์ แทมป์ตัน ประเทศอังกฤษ ทำการศึกษาประสิทธิภาพของอาหารเสริมระหว่างตั้งครรภ์ ด้วยการเก็บตัวอย่างเลือดของหญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 34 โดยระดับวิตามินดี ในเลือดจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับการวัดระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเด็กวัย 4 ขวบ จำนวน 678 คนหลังจากคลอดด้วยการวัดระดับแรงบีบมือ โดยผลการทดสอบพบว่า เด็กวัย 4 ขวบที่เกิดจากครรภ์ที่มีระดับวิตามินดีสูงในช่วงท้ายๆ ของการตั้งครรภ์ จะมีแรงบีบมือที่มากกว่าเด็กที่เกิดจากครรภ์ที่มีระดับวิตามินดีต่ำ
การทำการวิจัยดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความห่วงกังวลในวงการแพทย์เกี่ยวกับภาวะการขาดวิตามินดีซึ่งสร้างขึ้นจากผิวหนังที่ได้รับแสดงแดด ผลจากความเชื่อของคนในปัจจุบันที่
กลัวว่าแสงแดดจะให้โทษมากกว่าคุณประโยชน์กับร่างกายมนุษย์ดอกเตอร์ นิโคลาส ฮาร์เวย์ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยเซาท์แทมป์ตัน ระบุว่า มีหลักฐานบางประการที่ชี้ว่าจำนวนกล้ามเนื้อลายจะลดลงและมีไขมันมาแทนที่มากขึ้นหากเกิดภาวะขาดวิตามินดี และว่าการเพิ่มระดับความแข็งแรงของกล้ามอาจมีประโยชน์ในระยะยาว โดยอาจสามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อในวัยสูงอายุลงได้
ทั้งนี้ทีมวิจัยอยู่ระหว่างทำการวิจัยหญิงตั้งครรภ์จำนวน 1,200 คนที่ได้รับอาหารเสริมวิตามินดีในระดับสูง เพื่อประเมินผลกระทบเกี่ยวกับความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อในเด็กควบคู่กัน