อังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่ำที่สุดในโลก และในแต่ละพื้นที่ของอังกฤษเองก็ยังมีอัตราส่วนแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตนเองแตกต่างกันอยู่มาก ทั้งๆ ที่คุณแม่ยุคใหม่ต่างก็รู้กันดีว่าน้ำนมแม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการเลี้ยงลูก เพราะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อทารกอยู่อย่างครบถ้วน
สาเหตุที่บรรดาคุณแม่ในอังกฤษไม่นิยมให้ลูกกินนมตนเองอาจมีหลายเหตุผลประกอบกัน เช่น ปัญหาเรื่องของเงื่อนเวลา ที่คนเป็นแม่ในวัยทำงานอาจไม่มีเวลามากพอที่จะอยู่ให้นมลูกได้อย่างเต็มที่ บางคนอาจพึ่งนมผงทารกที่เป็นทางเลือกที่สะดวกกว่า หรือบางคนอาจจะห่วงเรื่องของทรวดทรงองค์เอว ทว่าเหตุปัจจัยอีกประการที่ทีม นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ทำการศึกษาพบว่า เหตุที่คุณแม่ชาวอังกฤษในหลายพื้นที่ไม่นิยมให้ลูกกินนมตัวเองเพราะอาย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะผู้หญิงอังกฤษเองในหลายรุ่นที่ผ่านมาไม่ค่อยได้เห็นคนอื่นให้ลูกกิน นมตนเอง เลยทำให้สิ่งนี้กลายเป็นบรรทัดฐานให้คนในท้องถิ่นนั้นยึดปฏิบัติกันมาจนเป็นวัฒนธรรมฝังรากในสังคมไป
การศึกษาของทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ยังอ้างข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติของอังกฤษ (เอ็นเอชเอส) ที่ระบุว่า แม้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามร่วมกันรณรงค์ให้คนอังกฤษเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก แต่จากการศึกษากลับพบว่าผู้หญิงชาวอังกฤษที่ให้ลูกกินนมตนเองนานติดต่อกัน 6 เดือน มีอยู่แค่ประมาณ 34 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ปัญหาข้างต้นทำให้รัฐบาลพยายามหาแนวทางหรือหามาตรการรณรงค์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อให้ผู้หญิงอังกฤษหันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น ล่าสุด องค์กรความริเริ่มวิจัยเพื่อการป้องกันแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรที่เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ สภาการวิจัยและกองทุนการกุศลด้านการแพทย์ของอังกฤษ ได้ผุดโครงการนำร่อง "ส่งเสริมให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่"ด้วยการมอบบัตรแทนเงินสด (shopping voucher) ให้แก่ผู้หญิงที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตนเอง เพื่อเป็นรางวัลให้แก่คุณแม่ที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้นำไปจับจ่ายซื้อของกัน โดยการรณรงค์ได้เริ่มขึ้นที่เมืองดาร์บี้เชียร์ และเมืองเซาธ์ยอร์กเชียร์ ทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่ำมากเป็นที่แรก สำหรับบัตรแทนเงินสดนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือบัตรแรกมีมูลค่า 120 ปอนด์ ซึ่งมอบให้กับผู้ที่ให้ลูกกินนมแม่เป็นระยะเวลาติดต่อกันนาน 6 สัปดาห์ และบัตรแทนเงินสดจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 200 ปอนด์ หากให้ลูกกินนมแม่นาน 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม เจเน็ต ไฟล์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายของราชวิทยาลัยผดุงครรภ์ของอังกฤษ ให้ความเห็นต่อโครงการนี้ไว้ว่า การจะสร้างแรงจูงใจให้สังคมตระหนักถึงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นไม่ได้ทำกันง่ายๆ ด้วยเพียงแค่การตกรางวัลหรือให้ วัตถุสิ่งของใดๆ แต่หากจะต้องปลุกจิตสำนึกของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่เองจริงๆ ที่จะต้องหาแต่สิ่งดีๆ ให้กับลูกของตนเอง