เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวกรณีมีกระแสข่าวพบผู้แสวงบุญที่เพิ่งเดินทางกลับจากพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ป่วยมีอาการคล้ายโรคโคโรน่าไวรัส สายพันธุ์ใหม่ 2012 โดยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเบตง จ.ยะลา ว่า จากการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากการประกอบพิธีฮัจย์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 4,561 ราย ซึ่งเดินทางกลับมาประเทศไทยระหว่างวันที่ 22-27 ตุลาคม 2556 ลงเครื่องบินที่สนามบินนราธิวาส ภูเก็ต และหาดใหญ่ 42 เที่ยวบิน พบว่า มีผู้เข้าข่ายต้องสงสัยเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2012 หรือเมิร์ส-คอฟ คือ เข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งใน 3 ข้อ ได้แก่ 1.ปอดบวมรุนแรง 2.มีประวัติเสี่ยงเดินทางไปในพื้นที่ที่เกิดการระบาดของโรคและ 3.มีผู้ป่วยมากกว่า 2 รายในชุมชนเดียวกัน จำนวน 4 ราย แต่ผลการตรวจยืนยันจากห้องปฏิบัติการพบว่าไม่ได้ติดเชื้อเมิร์ส-คอฟ โดยทั้ง 4 รายเป็นหญิงเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนที่ระบุว่าพบผู้ป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยที่โรงพยาบาลเบตง จ.ยะลา จำนวน 3 รายนั้น ผู้ป่วยทั้งหมดไม่ได้เข้าข่ายต้องสงสัยและผลการตรวจห้องปฏิบัติการยืนยันเช่นกันว่า ไม่ได้เป็นเมิร์ส-คอฟเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาทั้งหมด
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ป่วยหญิงทั้ง 4 รายที่เข้าข่ายต้องสงสัยที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์นั้น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่าผู้ป่วยรายที่มีอายุ 60 ปี ป่วยด้วยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เอช 3 เอ็น 2 ส่วนอีก 3 คน ไม่พบเชื้อไวรัสทั้งโคโรน่าไวรัสและไข้หวัดใหญ่ จึงเชื่อว่าอาจเป็นเชื้อชนิดที่ไม่รุนแรงและกรมไม่ได้มีการตรวจสอบเฝ้าระวัง