อ.ทพ.ชิตพล ชัยมานะการ ภาควิชาทันตกรรมหัตถการและวิทยาเอ็นโดดอนต์คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สาเหตุที่ทำให้ต้องบูรณะฟัน ส่วนใหญ่เกิดจากการสูญเสียโครงสร้างของฟัน เช่น ฟันผุ ฟันสึก ฟันบิ่น หรือแตกหัก และในกรณีที่บูรณะเพื่อแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ไม่สวยงาม เช่น ฟันหน้าห่างเป็นต้น เนื่องจากวัสดุที่ใช้บูรณะฟันมีหลายชนิด การเลือกใช้วัสดุในการบูรณะฟันจึงขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวัสดุและตำแหน่งหรือหน้าที่ของฟันซี่ที่จะต้องบูรณะ เช่น ในฟันกรามที่ต้องรับแรงบดเคี้ยวค่อนข้างมากและไม่จำเป็นต้องสนใจในเรื่องความสวยงามเท่าใดนัก วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่จึงเป็นพวกโลหะซึ่งมีความแข็งแรง แต่ในฟันหน้า รับแรงบดเคี้ยวน้อยและเป็นตำแหน่งที่ต้องการความสวยงาม วัสดุที่เลือกใช้จึงเป็นพวกวัสดุสีเหมือนฟัน แต่ในปัจจุบันวัสดุสีเหมือนฟันได้พัฒนาให้มีความแข็งแรงพอสมควร สามารถนำมาใช้บูรณะฟันหลังในบริเวณที่ไม่ได้รับแรงบดเคี้ยวที่มากได้
1. การบูรณะฟันโดยตรง เป็นการบูรณะฟันโดยทันตแพทย์จะทำการกรอแต่งโพรงฟันใส่วัสดุบูรณะฟันและทำการขัดแต่งที่ตัวฟันโดยตรง ส่วนใหญ่จะให้การรักษาจนเสร็จได้ภายในครั้งเดียว
2. การบูรณะฟันทางอ้อม เป็นการบูรณะฟัน โดยทันตแพทย์จะทำการกรอแต่งโพรงฟัน จากนั้นจะพิมพ์ปากทำแบบจำลองฟัน เพื่อนำไปทำชิ้นงานภายนอกช่องปากแล้วจึงนำชิ้นงานมายึดติดลงบนโพรงฟันที่เตรียมไว้ โดยจะใช้เวลาในการรักษามากกว่า 1ครั้งวัสดุที่ใช้ในการบูรณะฟัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. วัสดุประเภทสีโลหะ (Amalgam) ส่วนประกอบหลักจะเป็นพวกโลหะที่มีความแข็งแรง แต่จะไม่ค่อยสวยงาม เนื่องจากสีของโลหะที่แตกต่างจากสีของฟัน
2. วัสดุประเภทสีเหมือนฟัน (Composite resin/ceramic) เป็นวัสดุพวกพลาสติกหรือเซรามิกมีความแข็งแรงพอสมควร มีสีขาวหรือเหลืองนวลซึ่งคล้ายกับสีของฟัน จึงมีความสวยงาม ทันตแพทย์สามารถบูรณะให้มีความคล้ายคลึงกับฟันได้มาก
นอกจากนี้ยังมีวัสดุบูรณะฟันชั่วคราว ซึ่งใช้เพื่อบูรณะฟันในระยะเวลานั้นๆ วัสดุพวกนี้ จึงไม่มีความแข็งแรง สามารถแตกหรือหลุดได้ง่ายการดูแลรักษา
แม้ว่าฟันจะได้รับการบูรณะแล้วแต่ก็ยังไม่ดีเทียบเท่ากับฟันธรรมชาติ ดังนั้นจึงควรใส่ใจในการดูแลทำความสะอาด แปรงฟันอย่างถูกวิธีและใช้งานอย่างถูกต้อง ไม่ใช้กัดหรือเคี้ยวของที่แข็งมากเกินไปราคาค่าใช้จ่าย
โดยปกติการบูรณะด้วยวัสดุพวกโลหะจะมีราคาถูกกว่าการบูรณะด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน ยกเว้นโลหะบางชนิด เช่น ทองจะมีราคาแพง โดยการเลือกวัสดุที่จะใช้สำหรับการบูรณะฟัน ทันตแพทย์จะต้องประเมินก่อนว่าโพรงฟันลักษณะดังกล่าวสามารถเลือกใช้วัสดุชนิดใดได้บ้าง จากนั้นผู้ป่วยจึงสามารถเลือกวัสดุได้ตามราคาและความสวยงามที่ผู้ป่วยต้องการ
ดังนั้นการให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปาก โดยการทำความสะอาดช่องปากและมาพบทันตแพทย์อย่างน้อยทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก เมื่อพบความผิดปกติเกิดขึ้น ทันตแพทย์จะได้ให้คำแนะนำและให้การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากบางครั้งความผิดปกติที่ เกิดขึ้นอาจจะไม่แสดงอาการใดๆ เลยก็ได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมาพบทันตแพทย์เมื่อมีอาการเท่านั้น ซึ่งบางครั้งเกิดความเสียหายต่อฟันมากหรือไม่สามารถบูรณะฟันได้ ทำให้ต้องสูญเสียฟันไปในที่สุด ถ้าเราดูแลรักษาฟันของเราได้ดี ฟันของเราก็จะสามารถอยู่กับเราได้ตลอดชีวิต