เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์กรมควบคุมมลพิษ รายงานค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) ของ จ.เชียงใหม่ว่าได้เพิ่มระดับขึ้นมาเกินจากค่ามาตรฐานแล้วโดยวัดที่สถานีตรวจวัดศาลากลาง จ.เชียงใหม่พบ PM10 ขยับขึ้นมาเป็น 120.37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ประเมินว่ามีแนวโน้มจะเพิ่มระดับขึ้นอีกในช่วง 1-2 วันนี้

          ทพ.ดร.สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สสจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือไปตามโรงเรียนต่างๆ กำชับให้ครูเฝ้าติดตามสังเกตดูสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีฟ้าหลัวอากาศปกคลุมไปด้วยฝุ่นควัน ขอให้งดนำนักเรียนออกมาในที่โล่ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย

          นางอารีย์ ตันบรรจง นายแพทย์ สสจ.พะเยา กล่าวว่า การตรวจวัดคุณภาพอากาศในจ.พะเยา พบว่าค่าของฝุ่นละอองในอากาศสูงถึง194.6 ไมโครกรัมต่อ ลบ.เมตร หรือสูงเกินกว่าที่กำหนดไว้ 20 ไมโครกรัมต่อ ลบ.เมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ จ.พะเยา ลำปางแพร่ น่าน และเชียงราย ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนที่อยู่ใน จ.พะเยา ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลพะเยา อ.เมืองพะเยา ถึงร้อยละ 30

          นายอนิวัตติ์ อร่ามมนทิราลัย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควันไฟใน จ.ลำปางมาจากหลายสาเหตุ ทั้งการจุดไฟเผาในที่โล่งแจ้ง รองลงมา คือ การเกิดไฟป่า รวมถึงลมแรงที่พัดผ่านในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้หมอกควันไฟจากไฟป่าในจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จ.ลำพูนและแพร่ ลอยมาปกคลุมพื้นที่ จ.ลำปาง ทั้ง13 อำเภอ ประกอบกับสภาพภูมิศาสตร์ของจ.ลำปาง ที่เป็นแอ่งกระทะ มีภูเขาสูงล้อมรอบทำให้หมอกควันไฟปกคลุมอย่างหนาแน่น

          สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง รายงานการตรวจวัดทัศนวิสัยในการมองเห็นระยะไกลในช่วงเช้าตรู่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พบว่าค่ามองเห็นได้เกิดต่ำสุดในรอบปี วัดได้เพียง 800 เมตรเท่านั้น หรือไม่ถึง 1 กิโลเมตร ส่วนในช่วงสายหลังผ่านไป 2 ชั่วโมง ค่าทัศนวิสัยในการมองเห็นระยะไกล ได้เพิ่มสูงขึ้นมา 1,500 เมตร หรือ1.5 กิโลเมตร ส่งผลทำให้เครื่องบินโดยสารขนาด 70 ที่นั่งของเที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์สสายกรุงเทพฯ-ลำปาง สามารถบินลงจอดที่ท่าอากาศยานลำปางได้ แต่ล่าช้านานกว่า 30 นาทีมาเป็นวันที่สองแล้ว